ผศ.ดร. สิตางศุ์ พิลัยหล้า นักวิชาการภาควิชาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ คณะวิศกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการประชุมร่วมหาทางออกวิกฤติมลพิษข้ามพรมแดน จากเหมืองแร่ต้นน้ำกก-สาย สู่น้ำรวก-โขง ณ ไร่แม่ฟ้าหลวง อ.เมือง จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2569ว่า ขณะนี้มีหลายประเด็นที่น่ากังวล เพราะหากดูเฉพาะสถานการณ์ที่มีสารโลหะหนักปนเปื้อนในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง ทั้งน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค น้ำทำเกษตร น้ำทำประมง และเรื่องการปนเปื้อนตะกอนดิน ที่จะกระทบต่อสัตว์หน้าดินและมนุษย์ โดยทั้งสองประเด็นจะมีมาตรฐานต่างกัน อีกประเด็นคือผลกระทบเรื่องดิน ทั้งสำหรับที่อยู่อาศัย และพืชไร่พืชสวน
ผศ.ดร.สิตางศุ์กล่าวว่า ปัจจุบันการตรวจตามมาตรฐานพบว่ามีการปนเปื้อนและเกินค่ามาตรฐานขั้นต่ำ จำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องหาแหล่งน้ำดิบใหม่ อย่างไรก็ตามพื้นที่เชียงรายมีแหล่งน้ำใต้ดินและน้ำดิบน้อย อาจต้องใช้กรรมวิธีหลากหลายนอกจากหาแหล่งใหม่ เช่น วิธี RO แต่ไม่ว่าจะยากง่ายเพียงไรรัฐบาลต้องรับผิดชอบหาแนวทางทำให้ได้ ซึ่งประเด็นตะกอนดินและดิน น่ากังวลมาก เพราะพื้นที่เชียงรายน้ำท่วมบ่อยครั้ง ตะกอนดินสามารถพัดพากลับขึ้นข้างบนผิวน้ำได้ และเมื่อน้ำท่วม สารพิษก็สามารถไปกับทั้งตะกอนดินและดินกระจายตัวไปวงกว้าง
ผศ.ดร.สิตางศุ์กล่าวว่า ปัจจุบันน้ำบาดาลยังไม่พบการปนเปื้อน เพราะการแพร่แนวราบง่ายกว่าแนวดิ่ง แต่หากเมื่อใดก็ตามที่ปล่อยให้น้ำบาดาลปนเปื้อน หมายถึงในรุ่นอายุเราไม่สามารถเยียวยาได้อีก ขณะนี้มีการเสนอทำโครงการฝายดักตะกอน เนื่องจากสร้างได้เร็วและง่าย หมายถึงชั่วคราวและพังได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามฝายลักษณะนี้ไม่ควรเป็นฝายดักตะกอนพิษ เพราะฝายดักได้แต่ตะกอนแต่ดักสารพิษไม่ได้ โดยเชียงรายมีน้ำหลากทำให้ฝายพังได้และสารพิษก็กระจายตัวไปอยู่ดีโดยไม่มีมาตรการรองรับ
“กรณีม่านดักตะกอนก็เช่นกัน ใช้โมเดลเดียวกับคลิตี้ ซึ่งโดยปกติใช้สำหรับโลหะหนักในท้องน้ำ เมื่อขุดต้องทำระบบปิด ห้ามฟุ้งกระจายเด็ดขาด อย่างไรก็ตามเป็นวิธีการที่เหมาะแค่กรณีคลิตี้เท่านั้น ไม่เหมาะสมกับพื้นที่ลำน้ำในเชียงรายที่มีน้ำหลาก เสี่ยงการฟุ้งกระจาย การท่วม การพังทลายของสารพิษสูงมากขึ้นไปอีก อีกปัญหาหนึ่งคือการมีม่านดักตะกอนจะทำให้น้ำบริเวณนั้นท้อ และท่วมซ้ำเติมในที่ชุมชน”ผศ.ดร.สิตางศุ์ กล่าว
นักวิชาการวิศวกรน้ำกล่าวว่า ล่าสุดมีการตรวจพบสารหนู ที่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นสารหนูประจุใด เพราะสารหนูมีขั้ว เริ่มตั้งแต่ -3, 0, +3, +5 โดยเรียงจากอันตรายมากที่สุด ซึ่งสารหนูที่พบในน้ำกกคือ +5 ความเป็นพิษต่ำสุด ส่วนสารหนูในน้ำโขง +3 ที่อันตรายที่สุด และละลายน้ำได้ ดังนั้นหากสารหนูที่อยู่ในน้ำกกเป็น +3 แล้วประกอบกับมีฝายดักตะกอน ก็จะถูกกักไว้ และสารหนู +5 ที่มาเจอฝายแล้วน้ำหยุดนิ่งหรือมีภาวะออกซิเจนต่ำ ประจุ +5 จะกลายเป็นประจุ +3 ได้ นั่นคือ การสร้างม่านดักตะกอนมีความเสี่ยงสูงมากที่จะยิ่งทำให้น้ำกกมีความเป็นพิษมากขึ้น วิธีแก้คือต้องอัดอากาศเข้าไปแก้ความเป็นพิษ
ผศ.ดร.สิตางศุ์กล่าวว่า นอกจากสารหนูแล้วยังมีโครเมียม ที่จะเป็นพิษต่อระบบน้ำเช่นเดียวกัน ปัจจุบันโครเมียมในตะกอนดินเกินระดับของการเฝ้าระวังแล้ว แม้ไม่เกินค่าสูงสุดก็ตาม ความเป็นพิษของโครเมียมตรงกันข้ามกับสารหนู คือหากอัดออกซิเจนเข้าไป โครเมียมจะกลายเป็นพิษ เรื่องนี้จึงซับซ้อนมาก และม่านดักตะกอนจะซ้ำเติมปัญหาดังกล่าว ปัญหาการปนเปื้อนจึงไม่อาจใช้วิธีทางกลแก้ไขปัญหาได้ เพราะหลักวิศวกรรมนี้ผิดจากหลักการทางเคมี
“ผู้แก้ไขที่รวดเร็วและควรตระหนักในปัญหาที่สุดคือจังหวัด เริ่มที่จังหวัดต้องกล้ายอมรับว่าปัญหานี้เป็นปัญหา เมื่อยอมรับว่าเกิดวิกฤต หน่วยงานและภาคส่วนต่าง ๆ จะเข้ามาช่วยเหลือและร่วมมือกัน เช่นมหาวิทยาลัย ก่อนที่สารพิษจะเข้าสู่ระบบร่างกายของคนแล้วเปลี่ยนไปถึงระบบยีนมนุษย์ เพราะสุดท้ายแล้วหากจังหวัดไม่ยอมรับและไม่ร่วมมือ ทุกอย่างจะไม่คืบหน้าและสูญเปล่า”นักวิชาการผู้นี้กล่าว
ผศ.ดร.ศิตางศุ์กล่าวว่า เมื่อจังหวัดพร้อมเป็นเจ้าภาพในการบูรณาการเพื่อแก้ไข ต้องมีคณะทำงาน มีแผนการทำงาน โดยแต่ละกรมต้องจัดหาคนที่เชี่ยวชาญมาร่วมกันทำงานให้ไปทางเดียวกัน เพราะหากเราระงับที่ต้นตอไม่ได้ จังหวัดจะต้องอยู่แก้ปัญหานี้ต่อไปทั้งเฉพาะหน้า และระยะยาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมครั้งนี้มีตัวแทนภาคส่วนต่างๆเข้าร่วมอย่างคับคั่ง อาทิ พระมหานิคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ดร.มาลี สิทธิเกรียงไกร คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ น.ส.มณีรัฐ เขมะวงศ์ สมาชิกวุฒิสภานายฐากูร ยะแสง สมาชิก สส.เชียงราย นายสมดุลย์ อุตเจริญ และนายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ นายคงศักดิ์ ธรานิศร ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2
ดร.สืบสกุล กิจนุกูล สำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ผศ.ดร.เสถียร ฉันทะ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ดร.อริศรา เหล็กคำ รองคณบดี สำนักวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง นางเตือนใจ ดีเทศน์ มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.) นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ นายมนตรี จันทวงศ์ กลุ่มเสรีภาพแม่น้ำโขง นส.เพียรพร ดีเทศน์ ผู้แทนInternational Rivers นส.รักษ์ดาว พริชาร์ด เครือข่ายประชาชนปกป้องแม่น้ำกก สาย รวก โขง
ทั้งนี้ในที่ประชุมได้มีการแสดงความคิดเห็นเพื่อร่วมกันหาทางออกอย่างกว้างขวาง โดยเห็นร่วมกันว่าต้องแก้ปัญหาที่ต้นตอก่อนคือการหาวิธีให้เหมืองแร่ต้นน้ำในรัฐฉานยุติการปล่อยสารโลหะหนักลงแม่น้ำ
————-