ระหว่างวันที่ 27-28 ชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม ชักชวนสื่อมวลชนจากส่วนกลางราว 30 คนลงพื้นที่สำรวจข้อมูลชุมชนและการทำเหมืองของบริษัทแร่โปแตชอาเซียน จำกัด(มหาชน) อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ โดยพื้นที่แรกที่กลุ่มสื่อมวลชนเดินทางไปเก็บข้อมูลคือชาวบ้านจากตำบลบ้านตาล โดยใช้สถานที่ของสำนักงานการศึกษานอกระบบบ้านตาล
ทั้งนี้ ตัวแทนชาวบ้านได้ร่วมให้ข้อมูลถึงข้อกังวลและผลกระทบที่อาจได้รับจากการทำกิจการเหมืองแร่ อย่างไรก็ตามระหว่างที่สื่อมวลชนกำลังพูดคุยอยู่กับชาวบ้านนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและหน่วยข่าวกรอง เฝ้าสถานการณ์และติดตามการทำงานของสื่อมวลชน ตลอดการลงพื้นที่ พร้อมทั้งขอจดชื่อชาวบ้านที่มาให้ข้อมูล ทำให้ชาวบ้านมีท่าทีไม่มั่นใจในการให้ข้อมูล
นายมานิตย์ ธาตุประกอบ ชาวตำบลบ้านตาล กล่าวว่า หลังจากมีเวทีประชาคมเพื่อการทำเหมืองแร่โปแตช ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเคยคัดค้านแต่ไม่เป็นผล โดยเหมืองดังกล่าวเปิดทำการครั้งแรกเมื่อปี 2525 โดยชาวบ้านที่คัดค้านบางส่วนกังวลว่าตนจะทำการเกษตรได้ไม่ปกติ แต่ภายหลังเจ้าหน้าที่ในเหมืองก็เข้ามาชี้แจงข้อมูลแล้วสัญญาว่าจะไม่สร้างปัญหา และพร้อมจะรับผิดชอบหากเกิดผลกระทบต่อชาวบ้าน
“หากในอนาคตเขาทำงานแล้วเกิดอะไรขึ้น เช่น น้ำเสียจากการทำเหมืองไหลลงที่นา เราจะสู้และเรียกร้องให้รัฐปิดเหมืองทันที แต่ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้ เพราะทุนมันเข้ามา เราก็ได้แค่ยอมรับ ตอนนี้ชุมชนที่ตั้งอยู่รอบๆ เหมืองขนาด 9,000 ไร่ มี 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลบ้านเพชร ตำบลบ้านตาล และตำบลหัวทะเล ซึ่ง 3 พื้นที่นี้มีบึงสาธารณะอยู่ 2 แหล่ง คือ บึงทะเลสีดอขนาด 300 ไร่ และบึงบางอำพัน 800 ไร่ โดยคาดว่าอนาคตการทำเหมืองจะซื้อน้ำจากสองบึงนี้ โดยองค์การบริหารส่วนตำบลระบุชัดแล้วว่าจะยินยอมขายให้ เพราะชาวบ้านไม่ได้ใช้ประโยชน์” นายมานิตย์ กล่าว
หลังจากเสร็จการพบปะตัวแทนชาวบ้านสื่อมวลชนได้ลงพื้นที่สำรวจชุมชนรอบๆ เช่นที่บ้านโคกเพชร พบพื้นที่ส่วนมากเป็นดินปนเกลือ ซึ่งชาวบ้านบางส่วนระบุว่า ที่ดินดังกล่าวมักใช้ประโยชน์ในการเพาะปลูกยาก จึงไม่นิยมทำการเกษตรในครัวเรือน และบางรายตัดสินใจขายที่แล้วออกไปรับจ้างที่อื่น
นายสมชาย ทำนักตาล ผู้ใหญ่บ้านเพชร หมู่ 8 ตำบลบ้านตาล กล่าวว่า ปัจจุบันลูกหลานในชุมชนบ้านตาลเข้าไปทำงานในเมืองใหญ่จำนวนมาก ถ้าเปิดเหมืองลูกหลานจะได้กลับมาทำงานที่บ้าน ซึ่งเหมืองดีมาตลอด โดยมีการจัดประชาคมเรื่อยมาเพื่อให้ข้อมูลกับชาวบ้านแบบตรงไปตรงมา และสัญญาว่าจะมีรายได้มหาศาลและแร่ที่ได้จากกิจการสารมารถนำมาทำปุ๋ยเคมีในราคาถูกเพื่อสนับสนุนเกษตรกรในชุมชน
นายสมชายกล่าวว่า ตนคลุกคลีกับเหมืองแร่โปแตชตั้งแต่เปิดเหมืองครั้งแรก และเป็นหนึ่งในกรรมการเหมืองแร่ ทั้งนี้เหมืองสัญญาแล้วว่าจะเยียวยาและชดเชยกรณีเกิดความเสียหายกับชาวบ้าน โดยยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีใครไม่เห็นด้วย และไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนั้นเหมืองได้รับปากว่าจะขุดลอกบึงสาธารณะใหม่เพราะน้ำตื้น ซึ่งประโยชน์จะเกิดกับชุมชน
ทั้งนี้ในวันที่ 28 กลุ่มสื่อมวลชนมีกำหนดการลงพื้นที่เหมืองโดยเฉพาะการลงไปสำรวจอุโมงค์ขุดเจาะและบ่อกักเก็บกากแร่ รวมทั้งการฟังบรรยายและซักถามผู้บริหารเหมือง
—————-
