เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2558 เวลาประมาณ 14 .00 น. เครือข่ายประชาชนจากขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) อาทิ ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากแผนแม่บทป่าไม้ฯ สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) เครือข่ายปฏิรูปเทือกเขาบรรทัดประมาณ 40 คน เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือข้อเสนอแนวทางการบริหารจัดการแผนแม่บทป่าไม้อย่างยั่งยืน ต่อนายกรัฐมนตรี โดยมีนายสมเจตน์ โรจน์พัฒนากุล ผู้เชี่ยวชาญด้านมวลชน สำนักงานปลัดสำนักนายก เป็นตัวแทนรัฐบาลรับหนังสือ
นายดิเรก กองเงิน ตัวแทนสมาชิกสกน.ได้อ่านข้อเสนอต่อรัฐบาล มีใจความสำคัญเกี่ยวกับข้อเสนอต่อแนวทางการบริหารจัดการแผนแม่บทป่าไม้อย่างยั่งยืน ดังนี้ 1. ให้รัฐบาลยุติการปฏิบัติตามแผนแม่บทเป็นการชั่วคราว จนกว่ากระบวนการทบทวนและปรับปรุงแผนแม่บทฯ จะแล้วเสร็จ 2. แผนแม่บทที่ป่าไม้ที่ยั่งยืนนั้นจะต้องหนุนเสริมสิทธิชุมชน และมีมาตรการคุ้มครองประชาชนผู้ยากไร้ คนยาก คนจน ไม่ให้ได้รับผลกระทบ 3. ข้อเสนอต่อปัญหาเร่งด่วนในพื้นที่ จากการปฏิบัติการที่ขัดต่อคำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)66 /2557 ซึ่งระบุว่า การดำเนินการใดๆ ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ยากไร้ ผู้ที่มีรายได้น้อย และผู้ที่ไร้ที่ดินทำกิน ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมนั้นๆ ก่อนคำสั่งมีผลบังคับใช้ ยกเว้นผู้ที่บุกรุกใหม่ จะต้องดำเนินการสอบสวนและพิสูจน์ทราบ เพื่อกำหนดวิธีปฏิบัติที่เหมาะสมและดำเนินการตามขั้นตอน
4. ยุติการไล่รื้อ คุกคาม ข่มขู่ ผลกดัน ปราบปราม ดำเนินคดีกับชาวบ้านที่อยู่อาศัยทำกินในพื้นที่มาก่อน และอยู่ในกระบวนการแก้ไขปัญหาร่วมกับรัฐบาล ให้สามารถดำรงชีวิตตามปกติได้ 5. เยียวยาชดเชยผู้ที่ได้รับผลกระทบ เสียหายและถูกดำเนินคดี รวมทั้งผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้อง 6. กรณีการตรวจสอบข้อพิพาททางที่ดินนั้น รัฐบาลควรมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างมีส่วนร่วม โดยใช้หลักฐานที่มีการพิสูจน์จากหลายๆ ด้านประกอบกัน เช่น พิสูจน์ที่ดินโดยอาศัยร่องรอยทางประวัติศาสตร์ พืชผลอาสิน แผนผังการดำรงชีวิต โดยไม่อ้างเฉพาะหลักฐานทางราชการด้านเดียว
“ขณะนี้มีหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เช่น กรณีที่ชุมชนโคกยาว ตำบลทุ่งลุยลาย อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ประชาชนก็ถูกไล่รื้อและได้ยื่นอุทธรณ์ไปแล้ว แต่ยังไม่ทราบความคืบหน้าว่าจะสามารถแก้ปัญหาใดๆ ได้หรือไม่ เพราะทางจังหวัดยังไม่มีการตอบรับใดๆ ส่วนรัฐบาลกลางก็ไม่มีการรายงานสถานการณ์การดำเนินการให้ประชาชนทราบ ซึ่งส่วนนี้ควรเร่งรัดจะได้ไม่เกิดปัญหาลักษณะเดียวกันกับชุมชนอื่น” นายดิเรก กล่าว
ทั้งนี้ภายหลังเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากแผนแม่บทอ่านข้อเสนอแล้วเสร็จ ตัวแทนสตรีที่รวมตัวกันในนาม “เครือข่ายผู้หญิงขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม” อันประกอบด้วย เครือข่ายผู้หญิงสลัม 4 ภาค กลุ่มผู้หญิงเครือข่ายปฏิรูปที่ดินอีสาน กลุ่มผู้หญิงสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ กลุ่มผู้หญิงเครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง (คปสม.) กลุ่มผู้หญิงสมัชชาคนจนเขื่อนปากมูน ได้ยื่นหนังสือถึงตัวแทนรัฐบาล เพื่อขอให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์เนื่องใน “วันสตรีสากล” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 9 มีนาคม 2558 เวลา 10.00-11.30 ที่บริเวณ ทำเนียบรัฐบาลโดยขอเสนอให้นายกรัฐมนตรีได้มารับหนังสือและร่วมแถลงนโยบายเกี่ยวกับการเข้าถึงทรัพยากรของประเทศ และการใช้สิทธิเพื่อปกป้องทรัพยากรในชุมชน เนื่องจากที่ผ่านมา มีสตรีไทยหลายกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการดำเนินการดังกล่าว แต่กลับถูกคุกคามและใช้ความรุนแรงหลายกรณี
———————-
