
พม่าติดโผเป็น 1 ใน 10 ประเทศเซ็นเซอร์สื่อหนักสุด
คณะกรรมการปกป้องสื่อมวลชน(Committee to Protect Journalists) รายงาน 10 ประเทศที่มีการเซ็นเซอร์และควบคุมการนำเสนอข่าวของสื่ออย่างเข้มงวดที่สุดในโลก พบว่า พม่าอยู่ในอันดับ 9 จาก 10 ประเทศ ตามหลังจีน ขณะที่คิวบาตามหลังพม่า แม้รัฐบาลพม่าประกาศยุติเซ็นเซอร์ต่อสื่อมวลชนตั้งแต่ปี 2555 แต่สื่อมวลชนในพม่ายังคงถูกทางการควบคุมอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ประเทศเอริเทรีย เกาหลีเหนือ ซาอุดีอาระเบีย เป็นประเทศอันดับต้นๆที่ติดอันดับสื่อถูกควบคุมอย่างเข้มงวด โดยทางคณะกรรมการปกป้องสื่อมวลชนได้เปิดเผยรายงานเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา
เมื่อเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว อ่องจ่อหน่าย นักข่าวอิสระถูกสังหารระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่ในคุกของทหาร ในขณะที่ไปทำข่าวเกี่ยวกับการสู้รบระหว่างทหารพม่าและทหาร DKBA
ขณะที่ 5 นักข่าวของสำนักข่าว Unity Journal ก็ถูกศาลพม่าจำคุกคนละ 7 ปี หลังจากเผยแพร่บทความเกี่ยวกับโรงงานอาวุธเคมีของกองทัพพม่าทางภาคกลางของประเทศ แม้ทางรัฐบาลพม่าจะออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ แต่ก็ยังพบว่า เสรีภาพสื่อในพม่ายังคงถูกจำกัด
ที่มา Mizzima/DVB

พม่ากีดกันหน่วยงานด้านมนุษยธรรมช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามในรัฐอาระกัน
เหตุสู้รบระหว่างกองทัพพม่าและกองทัพอาระกัน (Arakan Army) เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ลี้ภัยสงครามจำนวน 450 คน จาก 3 หมู่บ้าน ในรัฐอาระกันต้องลี้ภัยไปอยู่ที่อื่น ขณะที่มีรายงานว่า หน่วยงานช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมท้องถิ่นถูกกีดกันไม่ให้เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม ขณะที่ชาวบ้านร้องขอความช่วยเหลือ
ซอวอน หนึ่งในทีมช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเปิดเผยว่า เขาและคนอื่นๆได้จัดตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นมา หลังจากได้รับโทรศัพท์จากชาวบ้านขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แต่ไม่สามารถผ่านด่านทหารนอกเมืองเจ้าก์ทอว์ได้ โดยทหารไม่อนุญาตให้นำสิ่งของช่วยเหลืออย่างข้าวและน้ำมัน รวมถึงสิ่งของจำเป็นอื่นๆไปช่วยเหลือชาวบ้าน
กองทัพอาระกันนั้นไม่ได้รับการยอมรับจากรัฐบาลพม่าในการเข้ามีส่วนร่วมกับกระบวนการสร้างสันติภาพ กลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยกลุ่มนี้เพิ่งเคลื่อนไหวในรัฐอาระกันประมาณเมื่อ 3 ปีก่อน และไม่ค่อยมีเหตุการณ์สู้รบเกิดขึ้นบ่อยนักระหว่างกองทัพพม่าและกองทัพอาระกัน การปะทะกันที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ สื่อพม่ารายงานว่า ทหารของกองทัพอาระกันถูกจับพร้อมอาวุธจำนวนหนึ่งเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ที่มา Irrawaddy

ผู้ลี้ภัยจากเมืองเหล่ากายทยอยเดินทางกลับบ้าน
ชาวบ้านจากเมืองเหล่ากายที่อพยพไปยังเมืองล่าเสี้ยว ทางตอนเหนือของรัฐฉาน เริ่มทยอยเดินทางกลับเมืองเหล่ากาย เขตปกครองพิเศษโกก้างแล้ว แม้สถานการณ์ยังไม่สงบก็ตาม
สะหย่าดอว์ อาชิน ออป้ะ เจ้าอาวาสวัดหม่านสู่ ในเมืองล่าเสี้ยวเปิดเผยว่า ผู้ลี้ภัยจำนวน 250 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ได้เดินทางกลับเมืองเหล่ากายแล้ว โดยทหารพม่าได้อำนวยความสะดวกส่งผู้ลี้ภัยกลับ ขณะที่วัดหม่านสู่ถูกจัดให้เป็นสถานที่พักพิงชั่วคราวให้กับผู้ลี้ภัย
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุสู้รบในเมืองเหล่ากาย มีผู้ลี้ภัยมากกว่า 40,000 คน ได้อพยพอยู่ตามชายแดนพม่า-จีน และส่วนใหญ่ได้เดินทางกลับเมืองเหล่ากายแล้ว
จ่อ นิ หน่าย ส.ส.จากสภาล่างจากเมืองเหล่ากายเปิดเผยว่า ขณะนี้เมืองเหล่ากายกลับมาคึกคักอีกครั้ง และประชาชนเริ่มเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตร ขณะที่สงครามระหว่างกองกำลังโกก้างและทหารพม่ายังดำเนินไปตามเขตรอบนอกเมืองเหล่ากาย
จ่อ นิ หน่าย ยังเปิดเผยว่า ประชาชนเริ่มซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากสงคราม ขณะที่มีการแจกจ่ายอาหารให้ประชาชนที่กลับบ้านอาทิตย์ละครั้ง ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ทุนเมียตลิน โฆษกของกองกำลังโกก้าง MNDAA กลับเปิดเผยข้อมูลคนละด้าน โดยระบุว่า ผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่ถูกบังคับให้เดินทางกลับบ้าน
ที่มา Irrawaddy