เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2558 นายเชาว์ เย็นฉ่ำ ชาวบ้านชุมชนชมภู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวันที่ 16 ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารจากกองทัพภาคที่ 3 จำนวน 5 นาย เดินทางมาเข้ามาพบกับตัวแทนชาวบ้าน โดยขอความร่วมมือไม่ให้ชาวบ้านเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกในวันที่ 18 พฤษภาคม เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีลอบสังหารนายพิทักษ์ โตนวุธ ที่ปรึกษาเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมพู หรือวีรบุรุษ ป่าเขตฝน ซึ่งเป็นแกนนำร่วมกับชาวบ้านในการคัดค้านสัมปทานโรงโม่หิน ที่ถูกลอบยิงจนเสียชีวิตเมื่อ 17 พฤษภาคม 2544
นายเชาว์ กล่าวว่า เมื่อเรายืนยันกลับไปว่าจะยังคงพร้อมใจกันเคลื่อนขบวนไปยังศาลากลางพิษณุโลกตามกำหนดเดิม ทางทหารจึงพยายามต่อรองขอความร่วมมือกับชาวบ้านว่า ถ้ายอมไม่เคลื่อนขบวน ทหารจะเป็นผู้เชิญหน่วยงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาคุยกับชาวบ้านถึงชุมชน แต่เมื่อชาวบ้านถามกลับว่าจะสามารถทำได้อย่างที่พูดไว้ได้หรือไม่ ทหารก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ จึงต่อรองกับชาวบ้านต่อว่าจะยอมให้ไปยื่นหนังสือต่อผู้ว่าได้ แต่อนุญาตให้ไปได้แค่ 4 คน และให้ไปกับรถของทหารเท่านั้น โดยขอคำตอบกับชาวบ้านในวันนี้
“ทหารบอกว่าไปกันเยอะๆ ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เขาห้ามไม่ให้ชาวบ้านไปที่พิษณุโลก เราแค่ต้องการไปติดตามความคืบหน้าที่ผู้ว่าฯเคยให้สัญญาไว้ ซึ่งก็เป็นเรื่องความเดือนร้อนของชาวบ้าน ทหารพูดว่าถ้ายังไม่มีคำตอบก็จะเอาทหารมาคุยกับชาวบ้านอีกครั้ง” นายเชาว์ กล่าว
ด้านนายธีรเชษฐ์ โสทอง รองประธานเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมภู กล่าวว่า วาระครอบรอบ 14 ปี การสูญเสียนักต่อสู้เพื่อชุมชนของของชาวชมภู ได้เตรียมจัดกิจกรรมทำบุญเพื่ออุทิศบุญกุศลตามความเชื่อทางศาสนาให้แก่นายพิทักษ์ โตนวุธ ในเช้าวันที่ 17 พฤษภาคม ณ วัดชมภู ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก จากนั้นในวันที่ 18 พฤษภาคม ชาวบ้านประมาณ 100 คน เตรียมที่จะเดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก เพื่อยื่นหนังสือติดตามความคืบหน้าคดีการตายของนายพิทักษ์ โตนวุธ และร้องเรียนปัญหาการถือครองที่ดินโดยมิชอบของโรงโม่หินอนุมัติการศิลา รวมถึงขอให้ทางการเร่งดำเนินการให้พื้นที่ตำบลชมพูเป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม
“แม้โรงโม่หินแห่งนี้จะหยุดการทำเหมืองหินแล้ว แต่ยังคงมีการเข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่ เอาเครื่องมือเครือจักรขนาดใหญ่มาไว้ เป็นที่เก็บหิน ซึ่งชาวบ้านพบหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่า การครอบครองที่ดินของโรงโม่อาจเป็นเอกสารสิทธิ์ที่ถูกสวมโดยมิชอบด้วยกฏหมาย และน่าจะอยู่ในเขตของป่าสงวนห่งชาติ จึงอยากให้มีการเข้ามาตรวจสอบยึดคืนกลับมาพื้นที่ป่า ซึ่งชุมชนมีแผนที่ขอกันไว้เป็นป่าชุมชน และให้ชาวบ้านได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์” นายธีรเชษฐ์ กล่าว
นายธีรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ด้านความคืบหน้าคดีนั้น ทางทหารที่เข้ามาแจ้งกับชาวบ้านว่า พบเบาะแสมือปืนที่ยิงนายพิทักษ์แล้ว มีการส่งเจ้าหน้าที่ประกบตัวเพื่อป้องกันการหลบหนี และเตรียมที่จะเข้าจับกุมตัว ซึ่งหากเป็นจริงตามข้อมูลก็ถือเป็นข่าวดีและหวังว่าจะสามารถจับกุมตัวได้จริง แต่ชาวบ้านยังยืนยันว่าจะต้องเดินทางไปที่จังหวัดพิษณุโลก เพราะอย่างน้อยเป็นการแสดงจุดยืนว่าชุมชนยังคงติดตาม ไม่ลืมเหตุการณ์ตายของนายพิทักษ์ โตนวุธที่ถือเป็นศูนย์รวมกำลังใจในการต่อสู้กับโรงโม่หิน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับชาวบ้านทั้งที่ไม่ใช่คนที่เกิดที่บ้านชมภู จนสุดท้ายต้องเอาชีวิตเข้าแลก
—————-