Search

“ใคร” ในขบวนการค้าโรฮิงยา

received_914338681942751

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก ระบุว่าหากมีกำลังพลของกองทัพบกเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์โรฮิงยาจะถูกลงโทษขั้นเด็ดขาด โดยได้ประสานกับทางตำรวจไว้แล้วให้เข้าจับกุมได้ทันทีตามขั้นตอนทางกฎหมาย

ท่าทีของผบ.ทบ.ทำให้อุ่นใจได้บ้าง แต่จะยิ่งอุ่นใจมากกว่านี้หากท่านสั่งการให้มีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีที่มีเอกสารการโอนเงินของขบวนการค้ามนุษย์ที่พาดพิงไปถึงนายทหารระดับนายพลท่านหนึ่ง หลังจากตำรวจบุกตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในจังหวัดระนอง เพราะลำพังตำรวจคงไม่มีใครกล้าลุยในช่วงฝุ่นตลบก่อนจะได้ตัวผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติคนใหม่ในเดือนกันยายนนี้ หากมีปัญหากับทหาร นั่นหมายถึงอนาคตที่แสนหมิ่นเหม่

เอกสารที่ทางตำรวจค้นพบครั้งนี้ หากมีการตรวจสอบกันจริงๆ จะพบเส้นทางเดินของเม็ดเงินจำนวนนับสิบล้านบาทที่ขบวนการค้ามนุษย์ส่งส่วยให้กับบุคคลต่างๆ

มีข้อมูลมาบางส่วน ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ หากท่านผบ.ทบ. หากต้องสืบสวนเรื่องนีอย่างจริงจัง

การค้ามนุษย์ในจังหวัดระนองเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2552-2553 โดยแรกเริ่มทีเดียว เมื่อชาวโรฮิงยานั่งเรือมาถึง หน่วยงานด้านความมั่นคงมักจะผลักดันออกไป โดยใช้เรือขนาดใหญ่บรรทุกได้คราวละ 700-800 คน ไม่มีเครื่องยนต์ แต่ใช้เรือลากจากฝั่ง เมื่อเข้าใกล้น่านน้ำอินโดนีเซียก็ใช้ผ้าใบกางเพื่อให้ลมพัดเข้าฝั่ง

received_914338698609416

ว่ากันว่าช่วงนั้นบนเกาะหมู(อยู่ด้านหลังเกาะพยาม)กลายเป็นศูนย์อพยพเถื่อนและมีชาวโรฮิงยาถูกนำตัวมาพักไว้นับพันๆ กัน ซึ่งเรื่องนี้สื่อต่างประเทศเคยตามเจาะ และเป็นข่าวโผล่มาให้เห็น

แต่การผลักดันทำกันได้แค่ 3 เที่ยวก็ต้องหยุดเพราะใช้งบประมาณสูงมาก

ต่อมาทางกอ.รมน.ได้รับเรื่องนี้ไปดำเนินการเอง โดยมีคำสั่งเป็นการภายในไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ทหารเรือ ตำรวจน้ำ ว่าหากมีการจับกุมชาวโรฮิงยาได้ อย่าให้เป็นข่าวและให้นำส่งกอ.รมน. ที่สำคัญคือต้องไม่มีบันทึกการจับกุม

ร่ำลือกันว่า หลังจากนั้นเป็นต้นมาขบวนการค้าชาวโรฮิงยาได้เฟื่อฟูมากในจังหวัดระนอง แรกทีเดียวการเคลื่อนย้ายไปยังชายแดนมาเลเซียนั้น ใช้เส้นทางบก โดยมีกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลคอยเคลียร์เส้นทางแต่ละจุด และหากจุดไหนยังไม่ลงตัวก็แวะพัก ดังนั้นจึงพบแคมป์มากมายระหว่างทางจากระนองไปมาเลเซีย ที่ออกเป็นข่าวในสื่อมวลชนนั้นเป็นเพียงแค่บางส่วน แต่ยังมีจุดแวะพักอีกหลายแห่งที่ถูกรื้อออกหลังจากขบวนการค้ามนุษย์ถูกตีแตก

หลายคนในจังหวัดระนองร่ำรวยกันถ้วนหน้า เพราะรายได้มหาศาลจากการขนชาวโรฮิงยา ซึ่งแต่ละเที่ยวได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท แค่นายหน้าระดับหางแถวยังถอยรถเบนซ์ ถอยเฟอรารี่กันเป็นว่าเล่น

ธุรกิจสีดำในความรู้สึกแรก ถูกเม็ดเงินทำให้จางลงเป็นสีเทาประมาณ “ใครๆเขาก็ทำกัน”

ระยะหลังเส้นทางการค้าคนโดยทางบกมีความเสี่ยงมากขึ้น ที่สำคัญคือค่าใช้จ่ายระหว่างทางสูงมาก ดังนั้นจึงมีการเปลี่ยนเส้นทางใหม่โดยใช้เรือดัดแปลง ขนชาวโรฮิงยาผ่านน่านน้ำสากลไปเข้ามาเลเซียโดยตรง นั่นจึงเป็นที่มาและจุดจบของ “เจ้าพ่อเกาะหลีเป๊ะ”

ขณะนี้แม้ขบวนการค้ามนุษย์ในซีกของเอกชนจะถูกตีแตกกระจุย แต่ในซีกของภาครัฐที่เข้าด้วยช่วยกันจนอู้ฟู่ไม่แพ้เอกชน กลับไม่ถูกดำเนินการเท่าที่ควร โดยเฉพาะหัวเรือใหญ่ที่ทรงอิทธิพล

หากผู้มีอำนาจเลือกที่จะกระพริบตาข้างหนึ่งเพราะเป็นคนกันเอง ฝันร้ายนี้จะติดตามท่านไปตลอด เพราะไม่มีใครปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือได้

ภาพโดย ฐปนีย์ เอียดศรีชัย

///////////////////////

On Key

Related Posts

รมว.กระทรวงน้ำของจีนเยือนไทย-ลงพื้นที่แม่น้ำโขง สทนช.ของบทำโครงการแก้ปัญหาอุทกภัยน้ำสาย-น้ำรวก นักอนุรักษ์แม่น้ำจี้รัฐบอกความจริง-ผลกระทบของคนท้ายน้ำจากเขื่อนจีน

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2568 เพจของสำนักงานทรัพยากรนRead More →

ผู้เชี่ยวชาญเตือนฤดูฝนหน้าลุ่มน้ำกก-ลุ่มน้ำสายเสี่ยงสึนามิโคลนอีก เหตุทำเหมืองต้นน้ำ แนะเร่งทำจุดตรวจวัดชายแดน เผยยังไม่มีหน่วยราชการตรวจสอบระบบนิเวศ ชาวบ้านท่าตอนยังกังวลน้ำกกขุ่น

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2568 ดร.ธนพล พิมาน หัวหน้าฝ่Read More →

ชุมชนในป่าเครียดหนักเหตุรัฐแก้ปัญหาเหมารวม-ห้ามเผาแบบไม่แยกแยะ ไฟป่า-ไฟเกษตร หวั่นวิกฤตอาหารบนดอย สส.ปชน.ชี้รัฐผูกขาดจัดการทรัพยากรนำสังคมสู่วิกฤต

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 ที่ห้องประชุมคณะสังคมศาRead More →

เผยเปิดหน้าดินนับพันไร่ทำเหมืองทองต้นน้ำกก สส.ปชน.ยื่น กมธ.ที่ดินสอบ หวั่นคนปลายน้ำตายผ่อนส่งจี้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาผลกระทบข้ามแดน ผวจ.เชียงรายสั่งตรวจคุณภาพน้ำ 24 มี.ค.

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 นายสมดุลย์ อุตเจริญ สส.Read More →