เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2558 ที่ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ชาวบ้านในนามเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมภู ร่วมกันก่อสร้างฝายน้ำล้นกั้นบริเวณคลองไอ้เข้ ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาที่ไหลลงคลองชมภู โดยเป็นการดำเนินการตามแผนบริหารจัดการน้ำของชุมชน เพื่อแก้ปัญหาน้ำแล้ง-น้ำหลากให้แก่ชุมชนแถบนี้
นายเชาว์ เย็นฉ่ำ ชาวบ้านชมภู กล่าวว่า เนื่องในวันที่ 5 มิถุนายน เป็นวันคุ้มครองสิ่งแวดล้อมโลก ชาวบ้านจึงถือโอกาสนี้ร่วมกันลงแรงก่อสร้างฝายน้ำล้นต่อให้เสร็จสิ้น หลังจากก่อสร้างค้างไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งฝายน้ำล้นขนาดกว้าง 40 เมตร สูง 3 เมตรนี้ จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่พื้นที่ป่าต้นน้ำ และป้องกันปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝน โดยฝายดังกล่าวถือเป็นฝายแรกที่ชาวบ้านร่วมกันก่อสร้างในลุ่มน้ำสาขาของคลองชมภู ซึ่งจะเป็นฝายน้ำล้นนำร่องตามแผนการบริหารจัดการน้ำชุมชนที่ได้วางไว้ และในอนาคตชาวบ้านพยายามจะสร้างฝายน้ำล้นเพิ่มอีก 5-6 ฝาย ให้ครอบคลุมพื้นที่ลำน้ำสาขาทั้งหมด เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้านชมภูทุกหมู่บ้าน
“ชาวบ้านต้องการแสดงให้รัฐเห็นว่าชุมชนมีความสามารถในการดูแลจัดการน้ำได้ เพราะชาวบ้านย่อมรู้ดีว่าการจะกักเก็บน้ำควรจะทำในลำน้ำย่อยจุดไหนบ้าง ที่จะช่วยแก้ปัญหาน้ำแล้งหรือน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงอยากให้ภาครัฐสนับสนุนชาวบ้านแทนที่จะก่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ปิดกั้นคลองชมภู ซึ่งจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อสายน้ำ และต้องสูญเสียพื้นที่ป่านับพันๆ ไร่”
ด้านนายธีรเชษฐ์ โสทอง รองประธานเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมภู กล่าวว่า จากปัญหาการขาดแคลนน้ำในภาคการเกษตร และปัญหาน้ำหลากในฤดูฝน รวมถึงการไม่เห็นด้วยกับการโครงการก่อสร้างเขื่อนคลองชมพู ที่จะปิดกั้นลำน้ำสายหลักและสูญเสียพื้นที่ป่าจำนวนมาก ชาวบ้านจึงได้ลุกขึ้นมาร่วมกันสร้างแผนการบริหารจัดการน้ำชุมชนชมภูขึ้น เพื่อให้เป็นแม่บทการจัดการน้ำของชุมชน โดยได้วางแผนก่อสร้างฝายน้ำล้นในพื้นที่ลำน้ำสาขา และมีการวางข้อตกลงร่วมกันในการใช้น้ำเพื่อการเกษตรอย่างเหมาะสม จึงเป็นที่มาของฝายตัวแรกที่กำลังดำเนินการก่อสร้างในวันนี้ ที่จะใช้ระยะเวลาก่อสร้างทั้งหมดประมาณ 8 วัน โดยมีชาวบ้านชุมชนชมภู และเยาวชนในพื้นที่ร่วมกันก่อสร้าง โดยระยะแรกได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมชูปถัมป์ ให้งบประมาณก่อสร้างฝายน้ำล้นจำนวน 2 ฝาย