เมื่อวันที่18 กรกฎาคม 2558 เวลาประมาณ13.00 น. ตัวแทนนักอนุรักษ์คือ นายอัครเดช ฉากจินดา และนายประสิทธิชัย หนูนวล ซึ่งอยู่ระหว่างการอดอาหารเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จังหวัดกระบี่ ที่อดอาหารมานานกว่า 190 ชั่วโมง ใกล้กับกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา ได้เดินทางไปไหว้พระที่วัดพระแก้ว จากนั้นร่วมกันถือป้าย Save Andaman From Coal ที่หน้ามหาวิทยาลัยศิลปากร (วิทยาเขตวังท่าพระ) พร้อมแจกเอกสารเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมทำกิจกรรมรณรงค์คัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ซึ่งมีนักท่องเที่ยวบางส่วนให้ความสนใจในการรับฟังข้อมูล ขณะที่บางส่วนร่วมถือป้ายช่วยรณรงค์ นอกจากนี้ยังมีเด็กนักเรียน นักศึกษาในบริเวณใกล้เคียงเข้ามาร่วมถือป้ายรณรงค์ด้วย ก่อนเดินทางกลับไปนั่งปักหลักอดอาหารที่หน้ากระทรวงการท่องเที่ยวฯ เช่นเดิม
นายฉางปอ นักท่องเที่ยวชาวจีน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการทำกิจกรรมของเครือข่ายฯ ว่า ตนรู้สึกดีใจที่เห็นกลุ่มประชาชนออกมาคัดค้านโรงไฟฟ้า โดยเมื่อไม่นานมานี้ตนได้แบกเป้เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ที่แรกที่ไปคือจังหวัดภูเก็ต แต่ยังไม่เคยไปกระบี่วางแผนไว้ว่าจะเดินทางไปปีหน้า เพราะชอบทะเลประเทศไทย แต่ถ้ามีการสร้างโรงไฟฟ้าจริงๆ คงเป็นเรื่องเศร้า เพราะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ชอบทะเลประเทศไทย แต่ตนอยากให้มีการใช้ภาษาจีนเพื่อสื่อสารข้อมูลด้วย เนื่องจากนักท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ส่วนมากไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ อย่างไรก็ตามจะให้กำลังใจคนไทยที่ช่วยจัดกิจกรรมอนุรักษ์ทะเล และขอให้โรงไฟฟ้าไม่เกิด
ขณะที่นางสาวกนกวรรณ แซ่เอียม ชาวตำบลคลองรั้ว อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ในวันนี้ ตัวแทนชาวบ้านแหลมหินและหมู่บ้านอื่นที่ตำบลคลองรั้วกำลังเตรียมตัวออกเดินทางจากจังหวัดกระบี่ เข้าสู่กรุงเทพ ฯ เพื่อร่วมนั่งอดอาหารประท้วงกับเครือข่ายนักอนุรักษ์ หลังจากชาวบ้านเพิ่งผ่านช่วงการถือศีลอด อย่างไรก็ตามนอกจากกิจกรรมประท้วงอดอาหารแล้ว ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงจัดเวรยามเฝ้าระวังการเข้าศึกษาข้อมูลและเตรี่ยมพื้นที่สร้างโรงไฟฟ้าทุกวัน โดยพบว่าระยะหลังไม่มีเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) เข้าไปแจกสิ่งของในหมู่บ้านแล้ว แต่ชาวบ้านยังไม่ไว้ใจในท่าที จึงจัดเวรยามดูแลทุกวัน
“ เราไม่อยากให้รัฐบาลเร่งรัดการประมูลโรงไฟฟ้า เพราะตอนนี้ปัญหาอันดามัน มันเละไปหมดแล้ว เราอยากให้ใจเย็นและให้เวลาชาวบ้านได้พิสูจน์ตัวเองบ้าง ความผิดพลาดในการทำโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น มันเกิดมานานแล้ว และขอให้รู้ว่าชาวบ้านจะคัดค้านให้ถึงที่สุด ที่ผ่านมาชาวบ้านอยู่ระหว่างปฏิบัติกิจการศาสนา แต่พบว่า ภาครัฐออกมาให้ข้อมูลสนับสนุนเรื่อยๆ ขณะที่เรื่องร้องเรียนที่ชาวบ้านยื่นให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นั้นยังเงียบ ซึ่งหลังจากนี้ ชาวบ้านจะไม่ปล่อยให้รัฐบาลทำอะไรตามใจอีกแล้ว และขอให้ใช้เหตุผลในการทำหน้าที่ฝ่ายปกครองให้ดี เพราะชาวกระบี่ไม่หยุดอยู่เท่านี้ เราอยากให้กำลังใจทุกฝ่ายที่เข้าใจเรา และร่วมรับฟังเสียงของชาวบ้าน ร่วมคัดค้านโรงไฟฟ้าไปกับเรา ไม่นานเราจะไปร่วมทุกข์กับมิตรทุกคน เพราะรู้ว่าเราไม่ได้อยู่ลำพัง” นางสาวกนกวรรณ กล่าว
/////////////////