เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2558 เวลาประมาณ 11.00 น. ที่บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา กรุงเทพฯ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ ทีมพีมูฟ ได้ชุมนุมเพื่อคัดค้านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ป่าชุมชน ของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูปทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยในช่วงเช้าก่อนการยื่นหนังสือคัดค้านและอ่านแถลงการณ์ เครือข่ายภาคประชาชนได้ทำพิธีสาปแช่ง ผู้ที่มีส่วนผลักดัน พ.ร.บ.ป่าชุมชน โดยเผารายชื่อกรรมาธิการ พร้อม เผาพริกเผาเกลือ ณ บริเวณสวนสัตว์ดุสิต
ทั้งนี้ นายพฤ โอ่โดเชา ตัวแทนชาติพันธุ์ปกาเกอะญอ จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวเป็น ร่างกฎหมายที่ไม่มีความชอบธรรม ซึ่งตัวแทนพีมูฟ เคยยื่นหนังสือให้แก้มานานแล้ว โดยให้ใช้ฉบับภาคประชาชนในการออกกฎหมายแทนการใช้ฉบับดังกล่าว เพื่อสร้างความชอบธรรมในการบริหารทรัพยากรธรรมชาติทั้งประเทศ และให้ประชาชนได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นทุกรูปแบบเกี่ยวกับนโยบายการปกป้อง ดูแล ตลอดจนการใช้สอยป่าซึ่งที่ผ่านมามีการแบ่งพื้นที่ในการอนุรักษ์ และทำกินอย่างชัดเจน เพียงแต่ว่าการนำเสนอภาพถ่ายโดยรวมของภาคราชการนั้น มักจะนำเสนอเพียงแค่มุมพื้นที่ทำกิน ของชาวบ้านที่ทำสืบทอดกันมา ไม่เคยนำเสนอมุมป่าที่สมบูรณ์ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของชาวบ้าน ทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับป่าไม้บิดเบือนไปจากความเป็นจริง ส่วนตัวอยากให้ คณะกรรมาธิการ ได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมยังเขตป่าอนุรักษ์ของชุมชน เพื่อเก็บข้อมูล ก่อนการผลักดัน พ.ร.บ.ฉบับนี้
ทั้งนี้ภายหลังพิธีสาปแช่งผู้มีส่วนร่วมผลักดัน พ.ร.บ.ป่าชุมชน ทางเครือข่ายได้อ่านแถลงการณ์คัดค้าน พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว โดยมีเนื้อหาสำคัญระบุว่า เครือข่ายไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายที่มีเนื้อหาผูกขาดการบริหารจัดการดูและทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งยึดอำนาจในการบริหารจัดการไว้กับภาครัฐ โดยเฉพาะการรวมศูนย์ไว้กับระบบราชการในการควบคุมระบบต่างๆ อีกทั้ง ยังลิดรอนสิทธิชุมชนที่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญปี 40 จนถึงรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันด้วย โดยเฉพาะแนวคิดการวางเส้นแบ่งระหว่างคนกับป่าชัดเจน เป็นการตัดความสัมพันธ์ของเครือข่ายชาติพันธุ์แทบทุกชนเผ่าที่มีวิถีชีวิตเชื่อมโยงกับธรรมชาติ จึงเรียกร้องให้สปช. ยกเลิกการพิจารณาและถอนร่างพ.ร.บ. ป่าชุมชนฉบับดังกล่าวออกจากวาระการประชุมโดยเร็วที่สุด
อนึ่ง เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการปฏิรูปสังคม ชุมชน เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้ด้อยโอกาสได้เสนอให้ สปช. พิจารณาแก้ไขและเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป่าชุมชนนอกเขตอนุรักษ์ พ.ศ. …. โดยแก้ไขเพิ่มเติม ในรายละเอียดดังต่อไปนี้ 1 แก้ไขชื่อร่าง พ.ร.บ.เป็น “ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่า ในรูปแบบป่าชุมชน พ.ศ. …” โดยมีเหตุผลดังนี้
1 เพื่อให้มีความชัดเจนในเจตนารมณ์ของการออก พระราชบัญญัติว่าเป็นกฎหมายเชิงส่งเสริมการมีส่วนร่วม ไม่ใช่กฎหมายเชิงบังคับควบคุม 2 เพื่อให้หลักประกันว่าไม่กีดกันป่าชุมชนในเขตอนุรักษ์
นอกจากนี้ยังเสนอให้แก้ไขมาตรา 3 ในส่วนของนิยามคำว่า “อธิบดี” ด้วย โดยระบุว่า กรณีป่าชุมชนในเขตป่าสงวนแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยป่าสงวนแห่งชาติ ให้หมายความถึงอธิบดีกรมป่าไม้กรณีกรมป่าชุมชนในเขตป่าอนุรักษ์ตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่ง ชาติหรือกฎหมายว่าด้วยสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ให้หมายความถึงอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกรณีป่าชุมชนในพื้นที่ป่าชายเลนหรือป่าชายเลนอนุรักษ์ตามกฎหมายว่าด้วยส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้หมายความถึงอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อขยายของเขตป่าชุมชนให้ครอบคลุมพื้นที่ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ , พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และ พ.ร.บ.ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ตลอดจนขอให้เพิ่มข้อความดังต่อไปนี้ต่อจากมาตรา 26 คือ การขอจัดตั้งป่าชุมชนในเขตอนุรักษ์ในท้องที่ใด ให้กระทำได้เฉพาะกรณี ดังต่อไปนี้ 1 ชุมชนนั้นตั้งถิ่นฐานมาก่อนการประกาศให้พื้นที่ที่ชุมชนนั้นตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์ 2 ชุมชนนั้นได้จัดการดูแลรักษาพื้นที่ดังกล่าวในลักษณะเป็นป่าชุมชนมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบปี ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับและยังคงดูแลรักษาพื้นที่ป่าชุมชนอย่างต่อเนื่อง มาจนถึงวันที่ขอจัดตั้งป่าชุมชนตามพระราชบัญญัตินี้ 3 มีพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมแห่งการดำรงชีพที่เกื้อกูลต่อการดูแลรักษาป่าและระบบนิเวศ โดยการขอจัดตั้งป่าชุมชนในเขตอนุรักษ์ตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายป่าชุมชนประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา
ในกรณีที่อธิบดีเห็นว่า พื้นที่ซึ่งขอจัดตั้งป่าชุมชนเป็นพื้นที่ซึ่งทางราชการจำเป็นต้องกำหนดให้สงวนรักษาไว้เป็นการเฉพาะเพื่อการคุ้มครอง การรักษา การวิจัยทางวิชาการ หรือประโยชน์อย่างอื่นของรัฐ อธิบดีอาจเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชนเพื่อระงับการจัดตั้งป่าชุมชนนั้นเสียหรือกำหนดเงื่อนไขใด ๆ เป็นกรณีเพิ่มเติมก็ได้
//////////////////////////////////////