เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ได้เขียนหนังสือด้วยลายมือถึงนายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว หรือ “ครูตี๋” ประธานเครือข่ายกลุ่มรักษ์เชียงของ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีบทสัมภาษณ์ครูตี๋ในหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 2 สิงหาคม 2558 วิพากษ์วิจารณ์นโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาลโดยเฉพาะที่อำเภอเชียงของ (อ่านรายละเอียด http://www.posttoday.com/analysis/interview/379748 )
ทั้งนี้ในจดหมายที่ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เขียนถึงครูตี๋ระบุว่า “ผมได้อ่านบทสัมภาษณ์ที่นักข่าวโพสต์ทูเดย์สัมภาษณ์คุณครูแล้ว ชอบมากเลยครับ มีความเห็นที่สอดคล้องกับธรรมชาติมากที่สุด เศรษฐศาสตร์ที่ดีคือเศรษฐศาสตร์ที่เป็นไปตามธรรมชาติของสถานที่แห่งนั้นๆ ไม่ฝืนธรรมชาติ
“ผมอยากเรียนให้ครูทราบว่า ผมไม่ได้เห็นด้วยกับนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษเลยครับ แต่เป็นนโยบายที่คสช.ประกาศตั้งแต่ยังไม่ตั้งรัฐบาล พอตั้งรัฐบาลก็เลยจำต้องเดินต่อ แต่จะเห็นว่านักลงทุนไม่นิยมไปลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษเลย เพราะฝืนธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชียงของ ไม่ควรทำเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อดึงดูดการลงทุนอุตสาหกรรมเลย เพราะเชียงของสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดี และเป็นเมืองการค้าที่ดีซึ่งเป็นธุรกิจสะอาด ไม่ควรดึงอุตสาหกรรมที่จะนำความสกปรกต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามา ความเห็นของผมในเรื่องนี้ พวกนักธุรกิจในจังหวัดเชียงรายรู้ดีว่าผมคิดเช่นนี้ เพราะเคยพูดให้เขาฟังหลายครั้งในเชียงราย
“อีกประเด็นหนึ่งซึ่งผมขอชี้แจง ที่คุณครูพูดว่า ‘ผมไม่เห็นด้วยกับที่ท่านรองนายกฯ ปรีดิยาธร เทวกุล ที่บอกว่าท่องเที่ยวหมดมุขแล้ว เพราะ Sun sand sea เป็นตัวดึงดูดอย่างเดียวไม่เพียงพอแล้ว แต่จะต้องใช้อย่างอื่นเช่นเรื่องราวในอดีตของสถานที่นั้นๆ เป็นตัวดึงดูดด้วยเพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับสถานที่ที่เขากำลังมาเยี่ยมอยู่นั้น’ แต่ที่ครูยกประเด็นของดีตามธรรมชาติของเมืองนั้น ของสถานที่นั้น เป็นการเปิดประเด็นที่กว้างขวางและมีประโยชน์มาก
“คำที่ผมชอบมากในบทความของครูคือคำว่า ‘วิถีชีวิต’ การพัฒนาใดๆจะต้องไม่กระทบวิถีชีวิตที่ดี และวัฒนธรรมที่ดีของท้องถิ่นนั้น ซึ่งผมก็เชื่อในความคิดนั้นเช่นกัน เพราะเป็นไปตามหลักเศรษฐศาสตร์แนวพุทธ
“วันนี้ผมขอจบเพียงนี้ก่อนนะครับ ผมขอโอกาสชี้แจงสิ่งที่ผมคิดและผมพูดจริงๆเท่านั้น ผมดีใจที่ยังมีคนที่คิดแบบครูอยู่ ขอครูช่วยเผยแพร่ความคิดที่ดีของครูต่อไปด้วยครับ”
ด้านนายนิวัฒน์ กล่าวว่าหลังจากอ่านจดหมายแล้วรู้สึกดีใจที่ม.ร.ว.ปรีดิยาธรเข้าใจและสนับสนุนวิถีชีวิตของชุมชนและธรรมชาติ รวมถึงเศรษฐศาสตร์ท้องถิ่น เพราะเมืองเชียงของควรเป็นเมืองที่สะอาดเพราะมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายทั้งทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ
“บ้านเมืองเราต้องกล้าเปิดอกคุยกันอย่างนี้ ผมอยากให้ผู้นำประเทศได้เข้าใจชาวบ้านเหมือนที่รองนายกฯ เข้าใจและเขียนไว้ในจดหมาย หากมีการฟังเสียงชาวบ้านบ้าง ความวุ่นวายในหลายๆ เรื่องจะลดลงไปเยอะ” นายนิวัฒน์ กล่าว