แม้รับรู้กันอยู่ว่า การคอรัปชั่นเป็นมะเร็งร้ายของสังคมไทย ที่นับวันยิ่งเติบใหญ่ไม่หยุดหย่อน แต่ดูเหมือนความตื่นตัวที่จะลุกขึ้นมาดูแลตัวเองและขจัดเชื้อร้ายให้พ้นไปนั้น ยังไม่ไปถึงไหน แม้รัฐบาลจะออกมารณรงค์ “ปราบโกง” แต่ช่างดูบางเบาเมื่อเทียบกับอาการฉ้อราษฏร์-บังหลวง ที่หนักหนาสาหัสนักในวงราชการ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ศิลปินเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่งได้ร่วมกันออกมาต่อต้านคอรัปชั่น เพื่อรณรงค์ให้สังคมไทยและสังคมโลกตระหนักถึงภัยร้ายนี้
จุดเริ่มต้นของการรณรงค์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่ประเทศโปแลนด์ โดยศิลปินกลุ่มนี้ได้เดินทางไปแสดงผลงานผ่านผลงานศิลปะ ประเภท Conceptual Art เพื่อสื่อสารว่า “คอรัปชั่นเกิดขึ้นได้ทุกที่ และเราสามารถปฏิเสธหรือตอบรับก็ได้ อยู่ที่ใจ” โดยพวกเขาได้คิดโครงการที่ชื่อว่า “Zebra Project” เพื่อผลักดันและเพิ่มคุณค่าของศิลปะในแบบอีเวนท์ รณรงค์ให้สังคมหยุดสนับสนุนการคอรัปชั่นทุกประเภท
ศิลปินกลุ่มนี้ประกอบด้วย 1.จุมพล อภิสุข 2.จิตติมา ผลเสวก 3.ภัทรี ฉิมนอก 4.สาธิต รักษาศรี และ5.สมพงษ์ ทวี
สมพงษ์ ทวี หนึ่งในศิลปินผู้ทำโครงการฯ ระบุว่า โครงการ Zebra Project เดิมทีเป็นการคิดแค่ Theme เพื่อการแสดงสดที่โปแลนด์ ตามคำเชิญของศิลปินต่างชาติเท่านั้น โดยทางกลุ่มวางแผนไว้ว่าจะแสดงสดเพื่อต้านการโกง การคิดสินบน และคอรัปชั่นทุกประเภท โดยได้แนวคิดจากสภาพสังคมไทยที่มีความเชื่อนำเอารูปปั้น “ม้าลาย” มาวางหน้าศาลเจ้า ตามจุดต่าง ๆ ทั่วไทย เพื่อแก้บน หลังการอธิษฐาน ขอพร ทางกลุ่มมองว่า พฤติกรรมดังกล่าว น่าจะอธิบายได้ดีว่า สังคมไทยมีวัฒนธรรมติดสินบนทุกระดับ แม้แต่กับความเชื่อเรื่อง เทวดา ผีสาง ก็ยังมีรูปจำลองสัตว์ที่ไม่เคยมีในไทย ไปวางหน้าศาลเป็นร้อยเป็นพันในแต่ละที่ ดังนั้น ไม่ต้องคิดถึงระดับอื่นแล้ว การคิดสินบนกลายเป็นวัฒนธรรมไปแล้ว สะท้อนถึงโลกมาถึงจุดวิกฤติด้านนี้จริง ๆ
“การแสดงสดที่โปแลนด์ครั้งนี้ ผลตอบรับเกินคาด คนที่สนใจศิลปะไม่ได้มองม้าลายเป็นเพียงสัญลักษณ์การโกงอย่างที่เราต้องการสื่อสารเท่านั้น แต่พวกเขามีการมองเชื่อมโยงไปถึงการอพยพลี้ภัยสงครามของชาวตะวันออกกลางและอาฟริกาเหนือ ซึ่งกำลังเป็นปัญหาใหญ่ในยุโรป ด้วยความกลัวการรับผิดชอบและความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นตามมา โปแลนด์เป็นประเทศแรกที่ประกาศไม่รับผู้ลี้ภัย นอกจากนี้ เพื่อนศิลปินชาวยุโรปบางคนยังเปรียบเทียบขบวนการม้าลายของเรากับการเหยียดสีผิว ซึ่งการทำงานศิลปะ เราไม่จำกัดความคิดและการตีความของคนดูอยู่แล้ว” สมพงษ์กล่าวปิดท้าย
ในมุมมองของศิลปินกลุ่มนี้มองว่า การต่อต้านคอรัปชั่นไม่จำเป็นต้องลงทุนสูง แต่ทุกคนมีสิทธิ์มีส่วนร่วมได้ แม้ว่าจะเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม
วันที่ 27 กรกฎาคม 2559 จะมีการเปิดตัวโครงการม้าลาย ศิลปะต้านการคอรัปชั่น ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ โดยจะมีการระดมทุนสำหรับพัฒนาการทำศิลปะรณรงค์ให้สังคมร่วมปฏิเสธผู้มีพฤติกรรมคดโกง รับสินบน และคอรัปชั่นประเทศต่อไป ทั้งนี้จะมีกิจกรรมเคลื่อนไหวครั้งต่อไปในเดือนกันยายน ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน
ด้านจิตติมา ผลเสวก ศิลปินอิสระและนักเขียนสารคดี ได้เขียนถึงโครงการนี้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวไว้อย่างน่าสนใจว่า นานเท่าไหร่แล้ว ที่สังคมไทยตกอยู่ในค่านิยมการติดสินบน อาจจะเริ่มจากยุคพญาแถนเป็นต้นมา ครั้งที่ชาวบ้านประสบกับความแห้งแล้ง ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล จนต้องทำพิธีบวงสรวงอ้อนวอนพญาแถน จุดบั้งไฟขึ้นสู่ฟ้า ส่งสัญญาณเตือนพญาแถนให้ก้มหน้าดูลูกหลานผู้เดือดร้อน หรือกระทั่งการแห่นางแมวขอฝน ซึ่งเชื่อว่า แมวเป็นสัตว์ลึกลับที่สามารถร้องเรียกฝนได้ แต่คิดอีกอย่าง นี่คือการกระทำทุกขกิริยาแก่สัตว์เพื่อให้เบื้องบนสำเหนียกในหน้าที่ เหมือนการที่ชาวบ้านต้องออกมาอดข้าวประท้วงรัฐบาลเหล่านี้ เป็นต้น
“การบนบานศาลกล่าวกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา อาจเป็นเพราะชีวิตที่ขาดการดูแลจากภาครัฐ ชีวิตที่ขาดสวัสดิการ ทั้งที่เสียภาษีตั้งแต่แรกเกิดจนตาย เมื่อพึ่งพาอาศัยฝ่ายปกครองบ้านเมืองไม่ได้ การพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิอาจจะช่วยจิตใจได้ดีกว่า หนำซ้ำบางครั้งบนบานแล้วประสิทธิผลความเชื่อจึงยิ่งฝังรากหยั่งลึก และแผ่ออกไปกว้างไกล สิ่งของที่ใช้ในการติดสินบน หรือบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิมีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับจริตและความพึงใจของเจ้าแม่เจ้าพ่อหรือสิ่งศักดิ์สิทธิอันมีอยู่มากมาย”
จิตติมาบอกว่า ส่วนใหญ่เรามักจะเห็นรูปสัตว์ต่าง ๆ วางบูชาตามศาล โดยมาจากความเชื่อว่า สิ่งศักดิ์สิทธิผู้มากอิทธิฤทธิ์มักจะมีสัตว์เป็นพาหนะ และม้าก็เป็นหนึ่งในพาหนะเหล่านั้น กล่าวกันว่าสมัยก่อนก็นำรูปปั้นม้าธรรมดามาวางบวงสรวง แต่ต่อมาเพื่อให้สวยสะดุดตามากขึ้นจึงทำเป็นม้าลาย ครั้นคนที่ใช้ม้าลายมาติดสินบนประสพความสำเร็จในสิ่งที่ขอมากขึ้น ศาลบางแห่งจึงมีแต่คนนำม้าลายวางแก้บนไว้จนล้น กระทั่งความเชื่อไกลไปถึงระดับบนบานขอความปลอดภัยทางการใช้ถนน ผู้ที่มีอาชีพเกี่ยวกับการขับขี่รถที่ใช้ถนนเป็นประจำ มักจะบนบานศาลกล่าวด้วยม้าลาย เพื่อให้ปลอดภัยตลอดการเดินทาง
จิตติมามองว่า ม้าลายนั้น ถ้าเป็นทางศิลปะก็ถือว่าเป็นโมเดิ้นอาร์ตในวัฒนธรรมการติดสินบนก็ว่าได้ ด้วยลวดลายที่แปลกตาแบบป็อบอาร์ต ไม่เคยตกสมัย ไม่ว่าธรรมชาติจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร หรือแฟชั่นโลกจะหมุนไปทางไหน ม้าลายจะยังคงอยู่ และกลับมาทันสมัยได้เสมอ อาจจะเปรียบได้กับการคอรัปชั่นของบ้านเราที่ลบเลือน จะยังคงทันสมัยและปรับเปลี่ยนได้อยู่เสมอ
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมและสนับสนุนเสื้อยืดระดมทุนสามารถร่วมงานได้ที่หอศิลป์ฯ กรุงเทพ ในวันที่ 27 กรกฎาคม ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป โดยภายในงาน จะมีการเสวนาและฉายสารคดีสั้นเกี่ยวกับประสบการณ์ของศิลปินกลุ่มดังกล่าว ที่ได้ไปแสดงในโปแลนด์
/////////