เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2566 สำนักข่าว DVB รายงานว่า ตามรายงานขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations หรือ FAO) และโครงการอาหารโลก World Food Programme (WFP) พบว่าขณะนี้ ประชากรในพม่าราว 15.2 ล้านคนกำลังเผชิญกับความไม่มั่นคงทางอาหาร ซึ่งอยู่ในระดับปานกลางและรุนแรง
องค์การสหประชาชาติระบุว่า ขณะนี้มีผู้พลัดถิ่นภายในประเทศพม่า (IDP)จำนวน 2.6 ล้านคนทั่วประเทศ ซึ่งหมายความว่าจำนวนผู้ที่เผชิญกับความไม่มั่นคงด้านอาหารคาดว่าจะเพิ่มขึ้น
นายจ่อซอ โฆษกของรัฐบาล NUG ระบุว่า กำลังช่วยเหลือและจัดหาอาหารให้กับผู้คนที่กำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนอาหาร นอกจากนี้ยังจัดทำรายงานสถานการณ์ให้กับองค์กรระหว่างประเทศเพื่อขอความช่วยเหลือ นอกจากนี้รัฐบาล NUG ยังพร้อมที่จะเจรจาและประสานงานเพื่อการแจกจ่ายอาหาร
ทางด้านสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNOCHA) ได้ออกมารายงานเช่นเดียวกันว่า ประชากรในพม่า 1 ใน 3 หรือราว 18.6 ล้านคน กำลังต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ประชาชนในพม่ากำลังเผชิญกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน สถานการณ์ฉุกเฉินทางการเมือง การอพยพย้ายถิ่นฐานซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤติการเมืองในประเทศ
“เด็กๆ ต้องเผชิญกับวิกฤติอันหนักหน่วง โดยมีเด็กจำนวน 6 ล้านคนที่ต้องการความช่วยเหลือ อันเป็นผลมาจากการที่ต้องพลัดถิ่นฐาน การรักษาพยาบาลและการศึกษาที่ถูกขัดจังหวะ ความไม่มั่นคงทางอาหาร และภาวะขาดสารอาหารโภชนาการ” Marcoluigi Corsi ผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมชั่วคราวของสหประชาชาติประจำประเทศพม่ากล่าว โดยสหประชาชาติยังคาดการณ์ว่า ความรุนแรงจะเลวร้ายลงในปี 2567 เนื่องจากความขัดแย้งยังลุกลามไปยังพื้นที่อื่นๆของประเทศ และยังได้ประณามการใช้ความรุนแรงทางทหารต่อพลเรือน
ขณะที่สถานการณ์ทางเหนือในรัฐฉาน ล่าสุด ทางกองกำลังปะหล่อง TNLA ได้ออกมาประกาศยึดเมืองน้ำคำได้เบ็ดเสร็จ แต่ยอมรับ มีทหารฝ่ายตนได้เสียชีวิตจำนวน 49 นาย และบาดเจ็บอีก 149 นาย หลังพยายามยึดฐานที่มั่นทางทหาร “สะกานติ้ต” ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญของกองทัพพม่าในเมืองน้ำคำ โดยทหารพม่าจำนวน 150 นาย ที่ฐานที่มั่นดังกล่าวได้ยอมวางอาวุธต่อกองทัพปะหล่อง TNLA โดยใช้เวลาน้อยกว่า 2 เดือน
สำนักข่าว Irrawaddy รายงานว่า กองทัพปะหล่อง TNLA สามารถยึดฐานที่มั่นทหารของกองทัพพม่าในเมืองน้ำคำได้ 19 แห่ง ในระหว่างที่สู้รบกัน มีพลเรือนต้องสียชีวิต 13 ราย บาดเจ็บอีก 43 ราย