เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม นายฉัตรชัย หาญทะเล ชาวเกาะหลีเป๊ะ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์กลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้าคุกคามและข่มขู่ ชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะ อำเภอเมือง จังหวัดสตูล จากกรณีพิพาทเรื่องที่ดินนั้น ภายหลังชาวบ้านที่เดือดร้อนได้ร้องเรียนไปยังทหารเรือในพื้นที่ และทหารเรือได้วางกำลังเฝ้าเวรยาม เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยทำให้ไม่ชาวเลไม่ต้องอยู่บนความหวาดกลัวเหมือนในอดีต ทั้งนี้ปัญหาที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นและสั่งสมมานาน โดยปัจจุบันมีที่ดินไร้กรรมสิทธิ ที่ดินทับซ้อนจำนวนกว่า 2,000 ไร่ โดยจากการประชุมเครือข่ายร่วมกันนั้นเบื้องต้น ชาวบ้านอาจจะนำเสนอปัญหาดังกล่าวให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) รับทราบ โดยมีสัญญาณเบื้องต้นว่าอาจจะเจรจาร่วมกันที่สำนักนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 กรกฎาคม นี้ แต่ยังไม่มีการตอบรับที่แน่นอน เชื่อว่าการเสนอประเด็นปัญหาที่ดินอาจช่วยหาทางออกหรือพอจะทุเลาข้อพิพาทระหว่างชาวบ้านกับนายทุน ชาวบ้านกับรัฐได้บ้าง 

นายฉัตรชัย กล่าวว่า สำหรับชาวเลเกาะหลีเป๊ะมีปัญหาเรื่องที่ดินกว่า 100 ครัวเรือน มีทั้งกรณีถูกอ้างว่าสร้างบ้านบนที่ดินของนายทุน สุสานฝังศพถูกปิดกั้น การรุกพื้นที่สาธารณะของนายทุนที่อ้างสิทธิซื้อที่จากชาวเล ปัญหาการขาดพื้นที่ทำกินจากป่าชุมชน และการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบของสำนักงานที่ดินสตูล รวมทั้งที่ดินรอบอ่าวต่างๆในเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีนายทุนพยายามหลอกล่อชาวเลว่าจะทวงสิทธิคืนให้ชาวเลท้องถิ่น แต่ปรากฎว่ามีการทำเอกสารมอบที่ดินโดยตรงให้นายทุน จึงอาจจะเสนอ คสช.และเร่งหารือเรื่องการออกโฉนดชุมชน เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างเท่าเทียม

“การคุกคามที่ดินชาวเลหลีเป๊ะ เป็นการใช้อิทธิพลเหนือกฎหมาย การต่อสู้จึงทำได้ยากกว่าพื้นที่อื่น แต่เราในฐานะคนอยู่มาก่อน ไม่มีใครอยากให้เรื่องถึงศาล เราคิดว่า การปฏิรูปที่ดิน หรือการออกโฉนดชุมชน น่าจะเป็นทางออกที่ดีได้ แม้ยังไม่รู้คำตอบว่า ทาง คสช.จะทำอย่างไร อย่างน้อยก็เป็นอีกทางเลือกในการบรรเทาปัญหา ทุกคนมีสิทธิอยู่รอด ไม่ใช่คนรวยเท่านั้นจะครอบครองเพื่อเก็งกำไร” นายฉัตรชัย กล่าว

.