สำนักข่าวชายขอบ
Transborder News

โควิดสิงคโปร์ทำแรงงานหญิงฟิลิปปินส์ตัดสินใจกลับบ้าน

———-

The Newspaper (TNP)

สรุปความโดย บุศรินทร์ เลิศชวลิตสกุล

————

การแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากจะเปิดแผลระบบการจัดการแรงงานต่างชาติในสิงคโปร์แล้ว มาตรการตัดวงจรการแพร่กระจายของไวรัสอาจทำให้ประเทศประสบปัญหาแรงงานในบ้าน (domestic worker) ที่ตัดสินใจประเทศบ้านเกิด โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานหญิงจากฟิลิปปินส์ 

Jaya Anil Kumar ผู้จัดการองค์กรมนุษยธรรมด้านเศรษฐกิจการย้ายถิ่น (Humanitarian Organization for Migration Economics-HOME) หรือโฮม เปิดเผยว่าขณะนี้มีแรงงานหญิงฟิลิปปินส์จำนวนมากตัดสินใจกลับบ้าน เพราะไม่สามารถทนรับแรงเสียดทานจากนายจ้างในเรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส รวมถึงงานที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงเวลานี้ กรณีล่าสุดคือหญิงสาววัย 30 ปีทนไม่ได้ เพราะนายจ้างสบถด้วยคำภาษาอังกฤษใส่ และกดดันเธอทำงานให้เสร็จจนกว่าจะได้กินข้าวกลางวัน ซึ่งก็เลยเวลาไปพอสมควร เธอจึงโทรหาสายด่วนขอความช่วยเหลือเพื่อให้องค์กรมารับมาเธอออกจากบ้าน และตอนนี้เธออยู่ในความดูแลขององค์กรหนึ่งระหว่างจัดการส่งเธอกลับฟิลิปปินส์

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นสอดคล้องกับรายงานของสมาคมแรงงานในบ้านเพื่อสนับสนุนและฝึกทักษะ (Foreign Domestic Worker Association for Social Support and Training: Fast) ที่ระบุว่าความตึงเครียดที่เกิดขึ้นระหว่างนายจ้างและแรงงานเพิ่มขึ้นมากในช่วงการระบาดของโควิด-19 และมีแรงงานที่ตัดสินใจหนีออกจากบ้านนายจ้างเพิ่มขึ้นเท่าตัวในช่วงระหว่างวันที่ 13 มีนาคม ถึง 29 เมษายน ที่ผ่านมา ไม่รวมกับจำนวนที่โทรหาสายด่วนให้ความเหลือ (Helpline) เพื่อระบายปัญหาที่เกิดขึ้น และบอกว่าต้องการออกจากบ้านที่ทำงานอยู่ จึงทำให้ที่พักชั่วคราวเพื่อช่วยกรณีคนงานเหล่านี้ต้องรับคนจำนวนมากขึ้นในขณะนี้ 

สถานทูตฟิลิปปินส์ในสิงคโปร์เป็นอีกแห่งหนึ่งที่ให้ที่พักพิงชั่วคราวกับแรงงานที่ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 50 คน ซึ่งก็มีข้อห่วงใยว่าจะต้องจำกัดจำนวนคนเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการความปลอดภัยในช่วงการระบาดที่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม 

สื่อ The Newspaper รายงานเพิ่มเติมว่าปัญหาเบื้องต้นในแรงงานกลุ่มนี้ คือนายจ้างพูดจาไม่เหมาะสม บวกกับปริมาณงานที่มาก มีเวลาพักน้อย และไม่ได้รับค่าชดเชยจากที่ต้องทำงานในวันหยุด เช่นเดียวกับอีกหน่วยงานคือศูนย์ลูกจ้างในบ้าน (Centre for Domestic Employees: CDE) ที่เปิดเผยว่าแรงงานเหล่านี้มีความเครียดและเหนื่อย แต่ก็ไม่ค่อยกล้าพูดกับนายจ้างตรงๆ  

แรงงานหญิงฟิลิปปินส์รายหนึ่งเล่าประสบการณ์กับผู้สื่อข่าวที่เกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่าเธอไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าบ้านนายจ้างซึ่งเป็นแฟลตสวัสดิการของรัฐ หลังจากที่เขายอมให้เธอออกไปข้างนอกในวันหยุด แต่สุดท้ายนายจ้างกลับกลัวว่าเธอจะเอาไวรัสเข้ามาแพร่ในบ้าน และบอกให้เธอไปพักกับเพื่อนหรือญาติก่อนสัก 20 วัน แล้วค่อยโทรมาหาว่าสามารถกลับเข้าบ้านนายจ้างได้หรือไม่ 

“ฉันช็อกมาก ฉันทำงานกับเขามา 5 ปีแล้ว อยู่ดีๆ ก็ต้องมานั่งคิดว่าจะไปนอนที่ไหน ฉันต้องไปนอนที่โรงแรมราคาถูกอยู่ 2 วัน แต่ก็หลับได้ไม่ดี เพราะยังรู้สึกว่าตัวเองหลงทาง” 

นั่นทำให้เธอต้องขอความช่วยเหลือจากองค์กรโฮม (HOME) และสุดท้ายนายจ้างคนนั้นก็ปฏิเสธไม่ต้องการให้เธอกลับไปทำงานแล้ว เธอจึงต้องหานายจ้างใหม่ 

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้กระทรวงกำลังคน (Ministry of Manpower) ออกมายืนยันจะแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยการตรวจสอบกับนายจ้างว่ามีการละเมิดสัญญาเกี่ยวกับใบอนุญาตทำงานหรือไม่ แต่ก็ยอมรับว่ากรณีที่แรงงานถูกนายจ้างไล่ออกเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก 

หากนายจ้างทำผิดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สิงคโปร์มีกฎหมายที่ว่าด้วยการจ้างงานแรงงานต่างชาติกำกับอยู่ โดยเฉพาะหากนายจ้างไม่สามารถหาที่พักให้แรงงานอยู่ได้อย่างเหมาะสม นายจ้างต้องถูกปรับสูงสุด 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์หรือจำคุกสูงสุด 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ 

ในช่วงของการระบาดและควบคุมไวรัสโคโรนา ทางกระทรวงกำลังคนเปิดเผยว่ามีคำถามและข้อสงสัยจากแรงงานในบ้านเหล่านี้เข้ามาทางกระทรวงค่อนข้างมาก แต่สุดท้ายปัญหาไม่ได้ขยายใหญ่โต ทั้งสองฝ่ายตกลงในเงื่อนไขด้วยดี จำนวนกรณีที่แรงงานถูกเพิกถอนใบอนุญาตก็ลดน้อยลง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่หาเที่ยวบินกลับบ้านลำบาก จึงทำให้ทั้งนายจ้างและลูกจ้างต้องพยายามหาข้อตกลงเพื่อยุติปัญหาและยังทำงานร่วมกันต่อไป

———–

ที่มา: https://bit.ly/2TmHlRy

หมายเหตุ-บทความชิ้นนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่างศูนย์วิจัยนวัตกรรมสังคมเชิงพื้นที่ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กับ the Department of Southeast Asia Studies มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ และนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศไทย

On Key

Related Posts

โฆษก KNU ประกาศไม่เหลือพื้นที่เจรจาให้ SAC ระบุต้องรบให้ชนะเท่านั้น ชวนประชาชนร่วมกำจัดปีศาจร้ายออกจากแผ่นดินกอทูเล เผยพยายามให้กระทบเศรษฐกิจน้อยที่สุด “เศรษฐา” ตั้งกก.ชุดใหญ่ติดตามดูแลสถานการณ์ความไม่สงบในพม่า ให้ปานปรีย์เป็นประธาน

วันที่ 18 เมษายน 2567 พะโดซอตอนี (Padoh Saw Taw NeRead More →

NUG เชื่อการปฏิวัติเข้าใกล้ชัยชนะ ส่งจดหมายกระชับไมตรีกองทัพว้า ชื่นชมมีส่วนสำคัญถอนรากSAC จับตาความเปลี่ยนแปลงภายหลังทูตจีนพบอดีต 3 นายพลผู้นำพม่า

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 สำนักข่าว Irrawaddy รายRead More →

นักวิชาการหลายสถาบันเห็นพ้องทบทวนโครงการผันน้ำยวม ชี้ไม่คุ้มค่าการลงทุนนับแสนล้าน-ปริมาณน้ำไม่พอ-อีไอเอไม่คลอบคลุม ชาวบ้านผู้รับผลกระทบวอนให้ลงดูพื้นที่จริง

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 เวลา 9.00 น. ที่ห้องประRead More →

ร่วมรำลึก 10 ปี ‘บิลลี่’ ถูกอุ้มหาย ชี้สูญชีวิตแต่ไม่สูญเปล่า ไทยเกิดกฎหมายป้องกันคนหาย และเป็นแรงบันดาลใจคนบางกลอยรุ่นใหม่ต่อสู้เพื่อสิทธิชุมชนกะเหรี่ยง

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 ที่บ้านบางกลอย ต.ห้วยแมRead More →

ย้ายอองซานซูจี-อูวินมิ้น ออกจากเรือนจำไปบ้านพักเหตุสุขภาพย่ำแย่ ฝ่ายต่อต้านโจมตีโรงเรียนนายร้อยทหารในเมืองปวินอูหลิ่น มีผู้เสียชีวิต 4 นาย บาดเจ็บอีก 12 นาย

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 เมษายน 2567  สำนักข่าว ChindRead More →