Search

ประกาศชาวเล เรียกร้องความชอบธรรมสิทธิทำกิน จี้รัฐเร่งประกาศเขตวัฒนธรรมชาวเล

 

ชาวเลเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน คณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ร่วมงาน “วันรวมญาติชาติพันธุ์ชาวเล ครั้งที่ 4” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-10 พฤศจิกายน ณ บ้านทุ่งหว้า ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมชาวเล สู่สาธารณะและเปิดเวทีสรุปปัญหาชาวเล รวมทั้งหาแนวทางแก้ไขที่ยั่งยืน

 

นางวาสนา หาญทะเล อายุ 64 ปี ชาวเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล กล่าวในเวทีสนทนาเกี่ยวกับปัญหาและแนวทางแก้ไขการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาติพันธุ์ชาวเล ว่า ตนและชาวเกาะหลีเป๊ะเดินทางมาร่วมงานรวมญาติชาวเลทุกปี เพื่อสะท้อนปัญหาในพื้นที่ โดยทุกปียังคงพบว่า ปัญหาชาวเลหลายๆ ที่มียังคงเป็น ปัญหาที่ดิน ปัญหาเรื่องสถานะบุคคล โดยชาวบ้านส่วนมากไม่มีเอกสารสิทธิ์ในการครอบครองที่ดินและกำลังเผชิญกับการฟ้องไล่ที่จากนายทุน ที่พยายามสร้างโรงแรม รีสอร์ต ขนาดใหญ่ทับพื้นที่สุสานเก่าแก่ ตลอดจนคุกคาม ข่มขู่ในกรณีบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคลและบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติ โดยชาวเกาะหลีเป๊ะ เดินทางมาร่วมงานครั้งนี้ประมาณ 60 คน ส่วนตัวมาร่วมงานทุกปี สิ่งอยากให้รัฐแก้ปัญหาโดยด่วน คือ อยากให้เร่งจัดการเรื่องสาธารณูปโภค น้ำ ไฟ ไม่เคยเข้าถึง และยังเจอปัญหาเรื่องการเรียกเก็บค่าเช่าจากนายทุนในพื้นที่อีกด้วย

 

“เขาเอาเอกสารทางกฎหมายมาอ้างแต่เราไม่รู้ว่า เอามาจากไหน ป้ารู้ว่า ตัวเองย้ายจากแหลมตุ๊กแก จ.ภูเก็ต เข้ามาอยู่ในเกาะหลีเป๊ะตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่กลับถูกไล่ที่เสมอมา ครอบครัวป้าที่เคยทำประมงริ่มฝั่งเจ้าหน้าที่ก็มาไล่ให้ไปไกลเกือบ 10 กิโลเมตร ไปหาปลา ค่าน้ำมันเรือก็แพง เรายังต้องจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ สารพัดจะพอได้อย่างไร ” นางวาสนา กล่าว

 

เวลา 11 .00 น. ชาวเลทุกพื้นที่ได้ร่วมกันอ่านคำประกาศเจตนารมณ์ กลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล มอแกน มอแกลน และอูรักลาโว้ย เป็นกลุ่มคนพื้นเมืองที่อาศัยและทำมาหากินในบริเวณชายฝั่งอันดามันของประเทศไทยมานานหลายร้อยปี มีภาษา วัฒนธรรม วิถีชีวิต ภูมิปัญญา ขนบธรรมเนียมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง แต่กลับไม่ได้รับการเชิดชูในฐานะชนพื้นเมืองที่ควรจะมีสิทธิด้านที่อยู่อาศัยและสิทธิทางวัฒนธรรมตามรัฐธรรมนูญ ชาวเลขาดความมั่นคงในที่อยู่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเล ซึ่งเป็นที่ที่อยู่อาศัยและทำมาหากินมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ภัยคุกคามต่อวัฒนธรรมชุมชน คือ การรุกคืบของธุรกิจพัฒนาที่ดิน ธุรกิจท่องเที่ยว รวมทั้งกฎระเบียบของพื้นที่คุ้มครอง ซึ่งอาจทำให้ไม่เหลือผืนดินให้ขยับขยายหรือสืบทอดจนถึงรุ่นลูกหลานอีกต่อไป และที่สำคัญปัญหาอคติทางชาติพันธุ์ยังคงฝังรากลึก เป็นผลสะท้อนให้กลุ่มชาวเล กลาย เป็นพลเมืองชั้นสอง ในสังคมอีกด้วย จากสถานการณ์ข้างต้น เครือข่ายชาวเลและภาคีความร่วมมือ มีความเห็นร่วมกันว่าควรจะมีการขับเคลื่อนให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม มีแผนงานและกิจกรรมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระชับเครือข่ายความสัมพันธ์ภายในกลุ่ม และในขณะเดียวกันก็สร้างความเข้าใจในคุณค่าความหลากหลายทางวัฒนธรรมในสังคม จึงขอประกาศว่า ขอให้สร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย โดยการออกโฉนดชุมชน และขอให้ทำเขตสังคมและวัฒนธรรมพิเศษสำหรับกลุ่มชาวเล ขอให้มีการพิสูจน์สิทธิในที่อยู่อาศัย ของชุมชนชาวเลด้วยวิธีอื่นๆ ที่ไม่ใช้เอกสารสิทธิแต่เพียงอย่างเดียว ขอให้ชาวเล สามารถประกอบอาชีพประมง โดยใช้เครื่องมือแบบดั้งเดิม ในการหาทรัพยากรตามเกาะต่างๆ ทำพื้นที่เขตผ่อนปรนเพื่อให้ชาวเลเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างชอบธรรม

 

“ขอให้เร่งแก้ปัญหาสัญชาติ ในกลุ่มพี่น้องชาวเลที่ไม่มีบัตรประชาชนจำนวนกว่า 500 คน ขอให้ช่วยส่งเสริมด้านการศึกษาแก่เด็กและสนับสนุนทุนการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ขอให้แก้ปัญหาอคติทางชาติพันธุ์และให้มองชาวเลอย่างมีศักดิ์ศรี มีความเป็นมนุษย์ ขอให้ส่งเสริมด้านภาษาและวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวเล สนับสนุนงบประมาณจัดกิจกรรมต่อเนื่อง เช่น ส่งเสริมให้มีโรงเรียนสอนภาษาวัฒนธรรมในชุมชน ส่งเสริมให้มีการสอนศิลปวัฒนธรรมชาวเลในหลักสูตรสามัญ ส่งเสริมชมรมท้องถิ่นในโรงเรียน เช่น ชมรมภาษา ชมรมร็องแง็ง ส่งเสริมการใช้สื่อที่หลากหลาย สื่อบุคคล สื่อพื้นบ้าน สื่อสมัยใหม่ ในการอนุรักษ์วัฒนธรรมชุมชน เหล่านี้เป็นต้น หลายชุมชนมีกลุ่มองค์กรที่เข้มแข็งอยู่แล้ว ขอให้ภาครัฐดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ และส่งเสริมชุมชนให้เกิดกิจกรรมที่มีความต่อเนื่อง ขอให้มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อส่งเสริมการทำงานของเครือข่ายพี่น้องชาวเลให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม และขอให้มีงบประมาณส่งเสริม วันนัดพบวัฒนธรรมชาวเล เพื่อจัดกิจกรรมและการพบปะแลกเปลี่ยน ในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี โดยการสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐ ให้คณะกรรมการอำนวยการเพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเลระดับชาติ มีการจัดประชุมที่ต่อเนื่องจริงจัง โดยต้องรับฟังและสนับสนุนข้อเสนอแนะของตัวแทนชาวเล”ประกาศชาวเลระบุ

 

On Key

Related Posts

คพ.เผยผลตรวจภาคสนามพบสารหนูในแม่น้ำสาละวิน แต่ค่าปริ่มมาตรฐาน 0.01 มล./ล.ใน 2 จุด นักวิจัยจวกรีบประกาศผลที่ยังไม่ชัดเจนทำประชาชนสับสน-เชื่อผลตรวจห้องปฎิบัติการสูงกว่า Test Kit แนะเตือนประชาชนระมัดระวัง

อัดยับผู้บริหาร กฟผ.เหตุดินสไลด์ในเหมืองแม่เมาะ นายก-ประธานสภา อบต.บ้านดง- สุดข้องใจไม่ให้เกียรติท้องถิ่น-ไร้ความจริงใจ รู้ตั้งแต่ 30 ตค.แต่ไม่แจ้งชุมชนจนเสียหายใหญ่ เผยเคยเกิดขึ้นแล้ว 3 ครั้ง