สำนักข่าวชายขอบ
Transborder News

เทศกาลไหลเรือไฟ 66 ณ นครหลวงพระบาง

โดย จุฑามาศ ราชประสิทธิ์

หลวงพระบางเมืองมรดกโลกเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคนี้ จากการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกเมื่อพ.ศ. 2538 ประกอบกับสภาพของเมืองที่มีศรัทธาของพระพุทธศาสนาอย่างเหนียวแน่น ทำให้ศาสนาและการท่องเที่ยวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เสริมส่งซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะในเทศกาลที่สำคัญต่างๆประจำปีและที่งดงามที่สุดเทศกาลหนึ่งคือเทศกาลไหลเรือไฟในช่วงออกพรรษาของทุกปี


ในการไหลเรือไฟนั้น มีทั้งไหลเรือไฟน้ำและไหลเรือไฟโคก อันเป็นประเพณีที่ยึดถือปฏิบัติมาอย่างยาวนานหลายร้อยปีของชาวเมืองหลวงพระบาง โดยผู้ที่จะสร้างเรือไฟโคกและเรือไฟน้ำนั้น มักเป็นพระสงฆ์ผู้ซึ่งมีวัตรปฏิบัติงดงามในพระพุทธศาสนาและอยู่จำวัดได้ครบพรรษา ได้ถ่ายทอดการทำประทีปโคมไฟโดยทำจากไม้ไผ่และกระดาษบางใสประดับในบริเวณวัดอย่างงดงามตลอดในช่วงเทศกาลออกพรรษาซึ่งมักจะใช้เวลา 3-4 คืน และมีการจัดทำเรือประทีปโคมไฟเป็นรูปแบบต่างๆตามคติความเชื่อในศาสนาคือนกกิงกะลาบ้าง มังกรบ้าง พญานาคบ้างและนำมาตั้งขบวนแห่ในวันพิเศษคือแรมหนึ่งค่ำเดือน 11 ซึ่งถือเป็นวันออกพรรษาโดยสมบูรณ์


ในขบวนแห่นั้นมีการนำขบวนโดยพระสงฆ์และสามเณร สมาชิกในชุมชน นักเรียน ข้าราชการ มีการประกาศให้ความรู้ถึงความเป็นมา ให้ผู้ร่วมในขบวน นักท่องเที่ยว ได้ตระหนักถึงบุญกรรมและกุศลที่ได้เข้าร่วมในเทศกาลนี้


ฝนที่ตกปรอยๆ ทุกค่ำคืนทำให้ประทีปโคมไฟที่เป็นกระดาษฉีกขาดไปบ้าง แต่มิอาจทำลายศรัทธาความเชื่อในพระพุทธศาสนา การสืบทอด การดำรงอยู่ให้เสื่อมคลายลงได้ และนำมาซึ่งนักท่องเที่ยวจากหลากหลายประเทศให้มาเยี่ยมเยือนเมืองมรดกโลกแห่งนี้อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต


พวกเขามาเพื่อชื่นชมในความศรัทธาของชาวเมืองมรดกโลกที่ตระหนักเสมอว่าตนเองก็เป็นมรดกโลก และเป็นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนให้เมืองมรดกโลกหมุนไปข้างหน้าเช่นเดียวกับกงล้อแห่งพระธรรมที่หมุนผ่านข้ามกาลเวลามาแล้วกว่า 2500 ปี


กระนั้นเมืองมรดกโลกหลวงพระบางก็ยังเผชิญกับสถานการณ์การขาดแคลนแรงงาน คนหนุ่มสาวในเมืองส่วนมากเดินทางเข้าไปทำงานที่สามเหลี่ยม (เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว) ลักษณะงานที่ทำคือการบริการในแหล่งคาสิโน งานในสวน งานร้านอาหาร

ทั้งนี้รัฐบาลลาวได้ถือโอกาสประกาศนโยบาย Visit Laos Year 2024 ในงานนี้เพื่อให้นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวอีกครั้งและหลายๆ ครั้งในปีหน้า โดยที่พักร้านอาหารร้านกาแฟในช่วงเทศกาลออกพรรษาในปีนี้เต็มทุกที่ โดยส่วนตัวมองว่าการใช้ชีวิตอยู่ในเมืองมรดกโลกหลวงพระบาง คือการอยู่ท่ามกลางพหุวัฒนธรรมที่จริงแท้ ซึ่งประชากรที่มีสำมะโนอยู่ในเขตเมืองมรดกโลก ประมาณ 55,000 คน (สำมะโนประชากร พ.ศ. 2561 ข้อมูลจากวิกิพีเดีย) และใน พศ 2566 รัฐบาลประมาณว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาที่เมืองมรดกโลกหลวงพระบาง 1.5 ล้านคน (ข้อมูลจากอาเซียน 4.0 ออนไลน์ TNN 26 มีนาคม 2566)

On Key

Related Posts

คำประกาศแม่น้ำโขงชี้เขื่อนไม่ใช่พลังงานสะอาด-ส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชน-สิ่งแวดล้อมรุนแรง แนะรัฐฟังเสียงประชาชน “วิโรจน์”เตรียมส่ง สตง.-ป.ป.ช.จี้นายกฯตรวจสอบอย่างโปร่งใส-รับผิดชอบ

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2566 ที่โฮงเฮียนแม่น้ำโขง อRead More →

ผู้แทนสถานทูตจีนแจงวิสัยทัศน์แม่น้ำโขงให้ชุมชนริมโขง เผย 5 ประเทศร่วมดื่มน้ำสายเดียวกัน  ศ.สุริชัยชี้ความโปร่งใสในการสร้างเขื่อนไม่มีจริง สส.ก้าวไกลถามหามาตรฐานอีไอเอ

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2566 ที่โฮงเฮียนแม่น้ำของ อ.Read More →

แนะดึง ป.ป.ช.-สตง.ตรวจสอบเขื่อนปากแบง “วิโรจน์”ชี้ยุทธวิธีแม่น้ำ 4 สายร่วมกสม.-สภาส่งจัดทำข้อเสนอส่งนายกฯ ผู้นำท้องถิ่นน้อยใจรัฐไม่เคยฟังเสียงชาวบ้าน ระบุพื้นที่เกษตรนับพันไร่ได้รับผลกระทบแต่ไม่เคยมีหน่วยงานรัฐแจง

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2566 ที่โฮงเฮียนแม่น้ำของ อ.Read More →