เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2567 ที่ The Space Youth Learning Center อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เครือข่ายเยาวชนชาวพม่า,World Vision , Godown (လူငယ် ဂိုဒေါင်) , The Stick Society, Synergy ร่วมกันจัดงาน “Empower Youth Building Tomorrow” เนื่องในวันเยาวชนสากล (International Youth Day) เพื่อสร้างความหวังแห่งการเปลี่ยนแปลงให้กับเยาวชนผู้อพยพหนีภัยชาวพม่าในไทยและทั่วโลก โดยเยาวชนในประเทศพม่าที่เข้าร่วมกับกลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์และกำลังสู้รบกับกองทัพตัดมาดอว์เพื่อล้มล้างระบอบเผด็จการทหาร มิน อ่อง หล่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในงานมีการตั้งโต๊ะจำหน่ายสินค้าเพื่อระดมทุน เช่น หนังสือ อาหาร เครื่องดื่ม สติ๊กเกอร์ พลอยพม่า เสื้อ รวมไปถึงการให้ความรู้เยาวชนในการเข้าถึงการศึกษาและกฎหมายแรงงาน และการโต้วาที Speech By Space และการแสดงดนตรีสดโดยศิลปินวง Godown (လူငယ် ဂိုဒေါင်) , The Stick Society
ซินดี (นามสมมุติ) เยาวชนชาวพม่า กล่าวว่า พวกเรามารวมตัวกันเฉลิมฉลองวันเยาวชนสากลเพื่อส่งเสียงไปยังเพื่อนเยาวชนชาวพม่าที่เสียสละตัวเองชีวิตลุกขึ้นมาจับอาวุธต่อสู้เคียงข้างกองกำลังชาติพันธุ์อย่างไม่กลัวตาย หลายคนพวกต้องฉลองวันเยาวชนในสนามรบที่เต็มไปด้วยเสียงปืน เสียงระเบิด พวกเราอยากส่งเสียงไปถึงพวกเขาว่าพวกเขาไม่ได้โดดเดี่ยวในช่วงเวลานี้
“เรายังสู้ในตามแนวทางของเรา แม้ว่าต้องตัดสินใจนาทีสุดท้ายของชีวิตและหนีมายังประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่ไม่ห่างไกลบ้านเกิดนัก เหมือนเป็นการตั้งหลักให้พวกเราได้ร่วมสร้างเครือข่ายและยืนหยัดต่อสู้เคียงข้าง คอยให้ความช่วยเหลือทุกนาที ขอบคุณที่ต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยวเพื่อนำประชาธิปไตยมาสู่บ้านของพวกเราและหวังว่าเราจะเอาชนะระบอบเผด็จการทหารได้ในสักวัน”ซินดี กล่าว
วิลเลียม (นามสมมติ) เยาวชนชาวพม่า กล่าวว่า เยาวชนและประชาชนชาวพม่าหลายล้านคนต้องอพยพหนีภัยสงครามลี้ภัยเข้ามาในไทยและกำลังทยอยเข้ามาเรื่อย ๆ เพราะยังมีการสู้รบอย่างต่อเนื่องในพม่า บ้านเมืองเราถูกเผาพังทลายด้วยอาวุธสงครามจึงจำเป็นที่จะต้องหนีเข้ามาในไทย ซึ่งเป็นประเทศแรกที่เราพอจะสามารถหนีเข้ามาได้ หลายคนที่ลี้ภัยพวกเขาไม่มีเอกสารอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดกลัว เราต้องเผชิญกับการรีดไถเงินของตำรวจ แม้เราไม่อยากยินยอม แต่จำเป็นต้องจ่ายเพราะไม่อยากถูกส่งตัวส่งกลับพม่าในช่วงเวลานี้
วิลเลียม กล่าวต่อว่าชาวพม่าในไทยต่างคาดหวังอย่างยิ่งต่อรัฐบาลไทยที่จะสร้างบรรทัดฐานของกฎหมาย ในการเข้าถึงสิทธิต่างๆ อย่างเท่าเทียม การศึกษา การรักษาพยาบาล การจ้างงานที่เป็นธรรมโดยเฉพาะการทำบัตรแรงงาน (บัตรสีชมพู) โดยจ่ายตามราคาจริง เรายินดีและตระหนักทำตามกฎหมายไทย เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐหาช่องโหว่ในการเอารัดเอาเปรียบพวกเรา
“เราหวังว่าคนไทยและรัฐบาลไทยจะมองเห็นความเดือดร้อนจนถึงชีวิตของพวกเราชาวพม่า หลายคนอาจจะมองว่า เราเรียกร้องตลอดเวลาและเป็นภาระ แต่หวังว่าจะมองเห็นถึงความเป็นมนุษย์และสิทธิมนุษยชน หากชาวไทยต้องเผชิญอยุติธรรมเรา เราก็จะยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างคนไทยเช่นเดียวกัน” นายวิลเลียมกล่าว
นอกจากนี้ กลุ่ม Asia Youth’s Association AYA และ Empathy Realm ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ The Voice of Unsung เนื่องในวันเยาวชนสากลประจำปี 2567 หนังสือระบุว่า เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 อำนาจแห่งชาติถูกยึดทำให้คนหนุ่มสาวยังร่วมต่อสู้ปฏิวัติร่วมกับประชาชนเมียนมาร์ จึงขอประกาศในการกำหนดเยาวชน, นักเรียน, ชนพื้นเมืองและศาสนา คนหนุ่มสาวทุกเชื้อชาติ, พนักงานรัฐบาลเยาวชน, คนหนุ่มสาวที่ต่อสู้ในแนวหน้า และเยาวชนในแถวหลัง และเยาวชนผู้สนับสนุน ได้อยู่ร่วมกัน เพื่อใช้แนวหน้าของการปฏิวัติ
“เราขออธิษฐานเพื่อความสำเร็จของผู้นำรุ่นใหม่ที่มีส่วนร่วมได้ยุติระบบเผด็จการทั้งหมด การเกิดขึ้นของรัฐประชาธิปไตยแห่งสหพันธรัฐใหม่ องค์กรเยาวชนจะต่อสู้จนกว่าการปฏิวัติฤดูใบไม้ผลิจะเสร็จสิ้นด้วยความสำเร็จ”แถลงการณ์ ระบุ