
เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2558 นางสาวสื่อกัญญา ธีระชาติดำรง ชาวบ้านตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ซึ่งได้รับผลกระทบจากกิจการเหมืองแร่ทองคำเปิดเผยว่า หลังจากที่กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ได้ประกาศให้บริษัทอัคราไมนิ่งฯ ได้หยุดกิจการ 30 วัน ล่าสุดชาวบ้านที่อยู่ติดเขตเหมือง ยังคงได้ยินเสียงเครื่องจักรทำงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งเมื่อวานและวันนี้ ยังมีเสียงเตือนว่าจะมีการระเบิดหินและภูเขาอยู่ ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงต้องทนอยู่ในสภาพของฝุ่นคละคลุ้งและอยู่กับความเสี่ยงต่อไป ดังนั้นในวันที่ 16 มกราคม ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองทองคำทั้ง 3 จังหวัด คือ พิจิตร เพชรบูรณ์และพิษณุโลก จึงได้ตกลงกันว่าจะเดินทางไปยื่นหนังสือเพื่อร้องเรียน กพร.ที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง เพื่อให้ทราบว่า คำสั่งนั้นบริษัทฯ ไม่ได้ปฏิบัติตาม
“เราไม่เข้าใจว่าคำสั่งออกมาชัดเจนแล้ว ทำไมยังคงได้ยินเสียงระเบิดหิน ระเบิดเขาและมีรถเจ้าหน้าที่ รถพนักงานวิ่งอยู่เต็มถนน ทั้งๆที่ชาวบ้านมีผลตรวจร่างกายจำนวนทั้งหมด 740 คน พบผลเลือดมีสารโลหะหนักปนเปื้อนถึง 70 % และที่เหลืออีกเกือบ 1 หมื่นคนยังคงอยู่ในความกังวลและยังไม้เคยผ่านการตรวจเลือดหาสารโลหะหนัก” นางสาวสื่อกัญญา กล่าว
นางสาวสื่อกัญญา กล่าวต่อว่า นอกจากเรื่องการร้องเรียนเกี่ยวกับการละเมิดคำสั่งของบริษัทฯแล้ว อยากมีโอกาสได้คุยกับ กพร.ด้วยว่า ขณะนี้มีชาวบ้านจำนวนมากเป็นกังวลเรื่องสุขภาพมากทั้งเด็กและคนแก่ล้วนเป็นกลุ่มเสี่ยงกลุ่มแรกๆ ที่จำเป็นต้องตรวจคัดกรอง ซึ่งกพร.มีงบประมาณส่วนหนึ่งที่เป็นกองทุนความเสี่ยงจากการประกอบกิจการที่บริษัทลงทุนต้องจ่ายให้กพร.ปีละ 10 ล้าน ขณะนี้เหมืองดังกล่าวดำเนินการมาแล้วรวมระยะเวลา 13 ปี งบประมาณฯ มีรวมกว่า 100 ล้าน ควรที่จะให้งบประมาณชาวบ้านได้ใช้ในการตรวจ รักษาร่างกายกันบ้าง อย่างไรก็ตามงบประมาณในการตรวจเลือดเพื่อหาสารโลหะหนักนั้น ชาวบ้านไม่สามารถแบกรับภาระได้ ที่ทำได้ คือ ตรวจอาการป่วยทั่วไปและรักษาตามอาการ เช่น ไอ ไข้ ปวดเมื่อยก็ใช้ยารักษาตามอาการที่ปรากฏ แต่โชคดีที่ปี 2557 ได้รับงบประมาณที่ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และมหาวิทยาลัยรังสิตได้สนับสนุนสำหรับช่วยเหลือชาวบ้านบางส่วนโดยใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวไปประมาณ 5 ล้านบาทแล้ว หากกพร.จะเห็นใจชาวบ้านก็ควรดูแลชาวบ้านในส่วนนี้
ด้านนางสาวสายฝน เผยกลิ่น ชาวบ้านเขาหม้อและผู้ป่วยที่มีแมงกานีสสูงกว่าปกติ กล่าวว่าตน สามีและลูกสองคน อายุ 9 ปีและ 6 ปี มีผลตรวจเลือดพบแมงกานีสปนเปื้อนทุกคน และลูกทั้งสองคนมีผื่นแพ้และอาการปวดเมื่อย กล้ามเนื้อมานานตั้งแต่แรกเกิด แต่ไม่มีเงินมากพอพาลูกไปตรวจเลือด เว้นแต่รักษาอาการผื่นคันทั่วไป จนกระทั่งมีโครงการตรวจฟรีจึงพบว่าลูกมีโลหะหนัก
“ตัวเองมีสารปนเปื้อนนั้นไม่เป็นไรนัก แต่ลูกยังเด็ก ยังมีอนาคตอีกไกล เราไม่รู้ว่าอนาคตเขาจะเจออะไรอีกบ้าง ยังสงสัยอยู่ว่าตอนท้องลูกคนที่สองแล้วแท้งก่อนจะมีลูกคนเล็ก เป็นเพราะสารพิษหรือเปล่า เพราะเราไม่เคยไปตรวจ พอมาครั้งนี้ตรวจ 700 กว่าคนส่วนมากพบสารแมงกานีส เราก็ตกใจ ยิ่งเจอกับลูกยิ่งนอนไม่หลับ อยากให้รัฐบาลระงับเหมืองลงสักที เมื่อสองวันก่อนออกข่าวเขาบอกให้หยุด แต่เมื่อวานยังมีเสียงระเบิดถึงสองครั้ง ” นางสาวสายฝน กล่าว
———